Categories
Uncategorized

โซเชียลมีเดียส่งผลต่อสุขภาพจิตจริงหรอ??

    /    บทความ    /    โซเชียลมีเดียส่งผลต่อสุขภาพจิตจริงหรอ??

ภาวะข้อไหล่ติดรักษาได้ด้วยกายภาพบำบัด

โซเชียลมีเดียส่งผลต่อสุขภาพจิตจริงหรอ??

สื่อโซเชียลเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของผู้คนในยุคนี้ การพบปะ พูดคุยให้ความรู้สึกเสมือนจริง มีการค้นพบว่าสื่อโซเชียลเป็นสาเหตุส่วนหนึ่ง หรือปัจจัยที่อาจก่อให้เกิดโรคซึมเศร้าเพิ่มมากขึ้น

ผลกระทบทางสุขภาพจิตของผู้ที่ติดสมาร์ทโฟน หรือเทคโนโลยีอย่างหนัก มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับความวิตกกังวลและโรคซึมเศร้า จากผลงานวิจัยมหาวิทยาลัย Northwestern ในชิคาโกที่พบความสัมพันธ์ระหว่างผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้าและระยะเวลาที่ใช้สมาร์ทโฟนพบว่า ระดับของอาการซึมเศร้าที่เกิดขึ้นมีความสัมพันธ์กับปริมาณของเวลาที่ใช้สมาร์ทโฟน ยิ่งการใช้ระยะเวลามากขึ้น ระดับของอาการซึมเศร้าก็จะมากขึ้นไปด้วย

เสพติดโซเชียล

ไม่ใช่แต่เพียงระยะเวลาในการใช้สื่อโซเชียลมีเดียเท่านั้น แต่ปัจจัยที่มีผลมากที่สุดคือ การเสพติดการสื่อสารทั้งโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีผลทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าได้มากขึ้น ในส่วนของงานวิจัยในประเทศไทย มีผลงานวิจัยที่ศึกษาพฤติกรรมการสื่อสารผ่านเทคโนโลยีกับภาวะสุขภาพใจของนักเรียน แสดงให้เห็นว่า ปริมาณการใช้งานในการสื่อสารมากหรือน้อยอาจไม่สำคัญเท่ากับภาวะความรู้สึกต้องการในลักษณะ “เสพติด” เป็นตัวแปรสำคัญที่สะท้อนการผูกมัดสื่อสารเทคโนโลยี กับชีวิตของตนเองอยู่ตลอดเวลา

สาเหตุในการเสพติดสื่อโซเชียล

  • Connection หมายถึง การต้องการสื่อสาร พูดคุยกับเพื่อน หรือบุคคลที่อยู่ในสื่อโซเชียล เป็นการสื่อสารในทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยผ่าน Line, โพสต์รูปหรือข้อความผ่านทาง Facebook หรือโพสต์รูปผ่านทาง Instagram เป็นต้น 
  • Identity creation หมายถึง การต้องการที่จะมีตัวตนในสื่อโซลเชียลมีเดียว เช่นการชื่นชอบในยอดไลค์ หรือยอดคอมเมนต์ที่เกิดขึ้นจากสื่อโซเชียล 
  • Public and Private หมายถึง การต้องการรับรู้เรื่องราว หรือข่าวสารต่างๆของผู้คนผ่านทางโซเชียลมีเดีย 
  • Social Support หมายถึง การต้องการกำลังใจ หรือการยอมรับในสื่อโซเชียล เช่นการโพสต์ข้อความ หรือภาพเกี่ยวกับตนเองเพื่อให้ได้รับการแสดงความเห็นใจ หรือคอมเมนต์อื่นๆที่เกี่ยวข้อง
Social Media Detoxing

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยบาธ (University of Bath) กล่าวว่า วิธีที่ดีที่สุดในการขจัดอารมณ์ไม่ดีและปกป้องสุขภาพจิตของคุณคือ การหยุดพักจากโซเชียลมีเดียเพียง 1 สัปดาห์ สามารถลดอาการเครียด ช่วยให้ความรู้สึกดีมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มเวลาสำหรับกิจกรรมอื่นๆ ได้อีกด้วย 

Social Media Detox คือ การบำบัดการเสพติดการใช้โซเชียลมีเดีย โดยกำหนดตนเองให้อยู่ห่างจากการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ที่อาจส่งผลกระทบต่อจิตใจ จนเกิดความทุกข์ ความเครียด ทำให้ลามมาถึงร่างกายและการใช้ชีวิตประจำวัน เพื่อเป็นการฟื้นฟูพักผ่อนร่างกายและจิตใจกลับมาสดใสเหมือนเดิม


สัญญาณเตือนว่าคุณต้องการ Social Media Detox

  • จดจ่ออยู่กับโซเชียลมีเดียแทบจะตลอดเวลา
  • ปวดนิ้ว เมื่อยฝ่ามือ คอ หรือหลัง
  • ปวดตา เบลอ มึนไปชั่วขณะ
  • สิ่งที่อยู่ในโซเชียลมีเดียส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของคุณ
  • ขาดความมั่นใจในตัวเองและเปรียบเทียบตนเองกับคนอื่นในโซเชียล
  • มีปัญหาด้านการนอนหลับ
ข้อดีของการทำ Social Media Detox


  • มีเวลาในการหากิจกรรมและงานอดิเรก เช่น อ่านหนังสือ เล่นกีฬา ทำอาหาร เป็นต้น
  • ได้ใช้เวลากับครอบครัวและสิ่งรอบตัวมากขึ้น เช่น การไปทานข้วกับครอบครัว หรือคนรัก รวมถึงการพูดคุยและทำกิจกรรมร่วมกัน โดยไม่จำเป็นที่จะต้องใช้สื่อโซเชียลอยู่ตลอด
  • มีความสุขกับตัวเองมากขึ้น เพราะไม่จำเป็นที่จะต้องกังวลกับสิ่งที่อยู่ในสื่อโซเชียลมีเดียตลอดเวลา ทำให้มีเวลาในการดูแลตนเอง
  • มีเวลาในการพัฒนาตนเอง เช่นสามารถนำเวลาที่เหลือมาพัฒนาความสามารถด้านอื่นๆ หรือหาความรู้เพิ่มเติม
  • จิตใจมั่นคงยิ่งขึ้น เนื่องจากไม่ต้องใช้เวลาในการเสพสื่อ หรือคอมเมนต์ต่างๆผ่านทางโซเชียล ทำให้สภาพจิตใจและความคิดของเราสามารถจดจ่อ และมีสมาธิกับตัวเองได้

หากท่านมีอาการหรือสัญญาณเตือนในการเสพติดสื่อโซเชียล สามารถเข้ามารับคำแนะนำกับบักจิตวิทยาของเราได้ที่ พรีโมแคร์ เมดิคอล คลินิก ที่พร้อมดูแลรักษาสุขภาพใจของท่านอย่างครบถ้วน สามารถสอบถามหรือนัดหมายล่วงหน้าที่นี่ 

บทความที่เกี่ยวข้อง

Categories
Uncategorized

Fitness Test บริการ กายภาพบำบัดเพื่อสุขภาพที่พรีโมแคร์

    /    บทความ    /    Fitness Test บริการ กายภาพบำบัดเพื่อสุขภาพที่พรีโมแคร์

Fitness Test
บริการกายภาพบำบัดเพื่อสุขภาพ

Fitness Test บริการ กายภาพบำบัดเพื่อสุขภาพที่พรีโมแคร์

บริการจากพรีโมแคร์ที่จะช่วยประเมินความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและร่างกายโดยนักกายภาพบำบัด เพื่อการวางแผนการทำกายภาพที่จะช่วยแก้ไขปัญหาร่างกายของคุณอย่างถูกต้อง รวมถึงช่วยออกแบบท่าออกกำลังกายเฉพาะบุคคลให้ตรงจุดที่สุดเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงอย่างยั่งยืน 

Fitness Test ที่พรีโมแคร์

คือการทดสอบความแข็งแรงของร่างกายเพื่อการออกแบบการทำกายภาพบำบัดและท่าออกกำลังกายเฉพาะบุคคล โดยแบ่งออกเป็น Wellness Fitness Test และ Senior Fitness Test ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่าง ทั้งนี้การทดสอบความแข็งแรงนั้น เพื่อประเมินองค์ประกอบของสมรรถภาพทางกายที่มีความสัมพันธ์กับสุขภาพ ได้แก่ 

  1. ประเมินสุขภาพทางร่างกายทั่วไป (General health evaluation) เช่น วัดชีพจร ความดันโลหิต รวมถึงการซักประวัติของโรคที่เกี่ยวข้องกับการทดสอบสมรรถภาพ ซึ่งเป็นการประเมินเบื้องต้น หรือข้อควรระวังในการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย
  2. สมรรถภาพในการทำงานของระบบไหลเวียนเลือดและหัวใจ(Cardiovascular endurance)  หมายถึง ความสามารถในการทำงานของร่างกายอย่างต่อเนื่อง หรือการใช้ออกซิเจนขณะออกกำลังกาย ซึ่งบ่งชี้ไปถึงประสิทธิภาพของหัวใจและปอด รวมถึงความสามารถในการทำกิจกรรมต่างๆในชีวิตประจำวัน 
  3. ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ(Muscle Strength) หมายถึง ปริมาณสูงสุดของแรงที่กลุ่มกล้ามเนื้อสามารถออกแรงต้านได้ ในลักษณะที่มีการเคลื่อนไหวของข้อต่อ ซึ่งเป็นการวัดแรงของกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน เช่น กำลังของกล้ามเนื้อแขน ขา เป็นต้น
  4. ความทนทานของกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว (Core endurance) หมายถึง ความสามารถในการทำงานของกลุ่มกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวในการหดตัวซ้ำๆ เพื่อต้านแรงหรือความสามารถในการหดตัวครั้งเดียวได้เป็นระยะเวลายาวนาน
  5. ความคล่องตัว/ ความสามารถในการทรงตัว (Agility/ Dynamic balance) หมายถึง ความสามารถในการควบคุมร่างกายในการเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนไหวหรือเคลื่อนที่ของร่างกายได้อย่างรวดเร็วและมีเป้าหมาย รวมถึงความสามารถในการรักษาความสมดุลของร่างกายทั้ง ขณะอยู่นิ่ง และขณะเคลื่อนที่
  6. ความยืดหยุ่น (Flexibility) หมายถึง ความสามารถในการเคลื่อนไหวตลอดช่วงของการเคลื่อนไหวของข้อต่อต่างๆของร่างกาย
Wellness Fitness Test

การทดสอบสมรรถภาพทางร่างกายสำหรับผู้ที่มีอายุ 15-59 ปี โดยแบ่งการทดสอบสมรรถภาพออกเป็นดังนี้
  • ประเมินสุขภาพทางร่างกายทั่วไป (General health evaluation)
  • ความยืดหยุ่น (Flexibility)
  • ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ (Muscle strength)
  • ความทนทานของหัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular endurance)
  • ความทนทานของกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว (core endurance)
 Senior Fitness Test

การทดสอบสมรรถภาพทางร่างกายสำหรับผู้สูงอายุ 60-69 ปี โดยแบ่งการทดสอบสมรรถภาพออกเป็นดังนี้
  • ประเมินสุขภาพทางร่างกายทั่วไป (General health evaluation)
  • ความยืดหยุ่น (Flexibility)
  • ความคล่องตัว/ ความสามารถในการทรงตัว (Agility/ Dynamic balance)
  • ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ (Muscle strength)
  • ความทนทานของหัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular endurance)
  • ความทนทานของกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว (Core endurance)
หากท่านต้องการนัดหมายเพื่อทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย สามารถเข้ามารับคำแนะนำได้ที่ พรีโมแคร์ เมดิคอล คลินิก ที่พร้อมดูแลรักษาสุขภาพร่างกายของท่านอย่างครบถ้วน สามารถสอบถามหรือนัดหมายล่วงหน้าที่นี่ 

Reference:

บทความที่เกี่ยวข้อง

Categories
Uncategorized

ดูแลถึงวิถีชิวิตกับโปรแกรม Personalized Lifestyle Medicine

    /    บทความ    /    ดูแลถึงวิถีชิวิตกับโปรแกรม Personalized Lifestyle Medicine

ภาวะข้อไหล่ติดรักษาได้ด้วยกายภาพบำบัด

ดูแลถึงวิถีชิวิตกับโปรแกรม Personalized Lifestyle Medicine

ที่พรีโมแคร์ เราออกแบบโปรแกรม Personalized Lifestyle Medicine เพื่อตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ที่มีความแตกต่าง เรามุ่งเน้นที่จะดูแลผู้ป่วยในทุกองค์ประกอบเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงและยั่งยืน โดยการรับฟังความคิดเห็นของคนไข้และนำมาปรับใช้กับแนวทางการรักษาของแพทย์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและทำได้ในระยะยาวตามแบบเฉพาะบุคคล

แนวทางการรักษา

ที่พรีโมแคร์ เราใส่ใจทุกองค์ประกอบของสุขภาพ เพราะเราเชื่อว่าสุขภาพที่ดีมีผลมาจากปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับชีวิต ทั้งปัจจัยภายในอย่างสุขภาพกายใจและปัจจัยภายนอก เช่น อาหาร การออกกำลังกาย การพักผ่อน และสภาพแวดล้อม เราจึงออกแบบโปรแกรม Personalized Lifestyle Medicine เพื่อดูแลสุขภาพของคุณให้แข็งแรงอย่างยั่งยืน โดยมีแนวทางในการดูแลรักษาคนไข้ดังนี้

1. ทำการนัดหมายผ่าน ทำแบบสอบถาม และ ปรึกษาแพทย์ เพื่อวิเคราะห์เชิงลึกเรื่องของไลฟ์สไตล์ต่างๆ โดยการปรึกษาแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ป้องกันและ การชะลอวัย สำหรับหัวข้อหลักดังนี้

  • ปรับสมดุลฮอร์โมน รักษา PMS หรือ Premenstrual Syndrome
  • เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง
  • Burnout Syndrome เครียด อ่อนเพลียง่าย

2. ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ เพื่อตรวจเลือด ทั้งนี้ในบางรายที่จำเป็นอาจจะต้องมีการตรวจปัสสาวะร่วมด้วย เมื่อได้ผลแล้วจะนำไปสู่การประเมินเพื่อวางแผนในการปรับไลฟ์สไตล์ที่สม 

3. วางแผนปรับไลฟ์สไตล์และปรุงวิตามินเฉพาะบุคคล โดยอิงตามผลตรวจจากห้องปฏิบัติการและ วิถีชีวิตของคนไข้ เพื่อความแข็งแรงอย่างยั่งยืน

4. Book of good health หนังสือที่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องของไลฟ์สไตล์ประกอบไปด้วยสองส่วนหลัก คือ 1. คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพต่างๆ ทั้งในเรื่องของอาหาร การออกกำลังกาย การจัดการความเครียด และการนอนหลับ 2. เกณฑ์ประเมินระดับสุขภาพในแต่ละบุคคล

 หากท่านต้องการที่จะนัดหมายเพื่อเข้าโปรแกรม Personalized Lifestyle Medicine สามารถเข้ามารับคำแนะนำได้ที่ พรีโมแคร์ เมดิคอล คลินิก ที่พร้อมดูแลรักษาสุขภาพร่างกายของท่านอย่างครบถ้วน สามารถสอบถามหรือนัดหมายล่วงหน้าที่นี่ 

บทความที่เกี่ยวข้อง

Categories
Uncategorized

ที่พรีโมแคร์เราแตกต่าง

    /    บทความ    /    ที่พรีโมแคร์เราแตกต่าง

ภาวะข้อไหล่ติดรักษาได้ด้วยกายภาพบำบัด

ที่พรีโมแคร์เราแตกต่าง

PrimoCare เป็นมากกว่าคลินิกที่ให้บริการรักษา เราให้บริการพิเศษ: การรักษาและการป้องกันซึ่งเป็นการระบุสาเหตุเพื่อป้องกันโรคที่ไม่จำเป็นและได้รับการดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืน

PrimoCare Medical Clinic

ด้วยแนวทางที่ผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของ Primocare พร้อมให้คำแนะนำอย่างเอาใจใส่ เป็นกันเอง โดยมุ่งเน้นการดูแลสุขภาพทุกองค์ประกอบของคุณ เรารับฟังความต้องการของคุณตลอดเส้นทางการรักษาพยาบาลของคุณ ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องของทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพของเรา

“สร้างพื้นฐานสุขภาพที่ดี เคียงข้างคุณ”

เราเชื่อว่าสุขภาพที่ดีเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเรา รวมถึงปัจจัยภายใน เช่น สุขภาพกายและสุขภาพจิตของแต่ละคน และปัจจัยภายนอก เช่น โภชนาการ ครอบครัว สถานที่ทำงาน และสิ่งแวดล้อม

Primocare มุ่งเน้นการดูแลชีวิตโดยรวมของผู้ป่วย ไม่ใช่แค่การรักษาตามอาการหรือโรคเฉพาะทางเพียงอย่างเดียว แต่ยังดูแลอาการที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิต ตลอดจนการระบุสาเหตุของการเจ็บป่วยเพื่อให้คุณมีรากฐานที่แข็งแรงเพื่อสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน

“ก่อนการรักษา”

ระบบสุขภาพที่เข้าถึงง่ายและมีผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง โดยเน้นการทำความเข้าใจ ใส่ใจพูดคุยกับผู้ป่วย ไม่ใช่แค่ดูแลในแง่การรักษาและจ่ายยา แต่เป็นการมองภาพรวมสุขภาพและชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ป่วย ตั้งแต่ในระดับบุคคล ครอบครัว ตลอดจนชุมชนที่อยู่อาศัย เป็นการดูแลตั้งแต่แรกเริ่มและต่อเนื่องเหมือนมีหมอประจำตัว เป็นที่พึ่งพาแรกของผู้ป่วยเมื่อมีปัญหาหรือมีความจำเป็นในทุกๆ เรื่องที่เกี่ยวกับสุขภาพ โดยจะครอบคลุมการดูแลสุขภาพในทุกมิติ ทั้งการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การรักษา การฟื้นฟูสภาพ ตลอดจนระบบการปรึกษาและส่งต่อผู้ป่วย กรณีที่มีความจำเป็นต้องพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง

มุ่งมั่นสร้างรากฐานสุขภาพที่แข็งแรงไปพร้อมคนไทย

ด้วยหัวใจในการทำธุรกิจอย่างเข้าใจและใส่ใจรอบด้าน เราเห็นถึงทิศทางของระบบบริการสุขภาพที่ต้องปรับเปลี่ยนโดยเน้นรากฐานที่แข็งแรง จึงอยากส่งมอบการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมที่มีผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง ผ่าน พรีโมแคร์ เมดิคอลคลินิก (PrimoCare Medical Clinic) ให้เป็นเสมือนหมอประจำตัวที่คุณสามารถไว้วางใจให้ดูแลสุขภาพในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการดูแลส่งเสริมสุขภาพที่ดี การป้องกันโรคภัยต่างๆ การรักษาเมื่อเกิดอาการเจ็บป่วย การฟื้นฟูสุขภาพให้กลับมาสมบูรณ์ หรือแม้กระทั่งการประสานงานส่งต่อการรักษากับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน โดยมั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับการดูแลอย่างเข้าใจ ใส่ใจ ใกล้ชิดดูเเลต่อเนื่อง ในทุกช่วงจังหวะของชีวิต เเม้ยามปกติ จนถึงยามป่วยไข้

ที่พรีโมแคร์ เรามีความเชี่ยวชาญและมีความรู้ในด้านการดูแลสุขภาพ ด้วยการรักษาแบบบูรณาการองค์รวม (Integrated Care) ให้กับคนทุกเพศทุกวัย จากความเชื่อมั่นที่ว่าสุขภาพที่ดีมีหลายปัจจัยประกอบเข้าด้วยกัน พรีโมเเคร์ เรามีแพทย์และผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษาอย่างใส่ใจเเละชัดเจน โดยมีผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางความใส่ใจ เเละมีส่วนร่วมในการดูเเลสุขภาพ ภายใต้การดูเเลอย่างใกล้ชิดจากบุคลากรทางการเเพทย์ของพรีโมเเคร์ รับฟัง เข้าใจ เเละดูเเลสุขภาพคุณ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คุณได้ใกล้ชิด เเละใช้เวลากับทีมเเพทย์ให้นานกว่าที่เคย เพื่อให้คุณมีสุขภาพเเข็งเเรงเเบบยั่งยืน

  • ดูเเลด้วยหัวใจ 
  • ใกล้ชิด เเละใช้เวลากับทีมเเพทย์ให้นานกว่าที่เคย
  • รับฟัง เข้าใจ 
  • ดูเเลอย่างต่อเนื่อง
  • เข้าถึงได้ง่าย
  • สะดวก รวดเร็ว

“วางใจให้พรีโมแคร์เป็นที่ปรึกษาเเรกในการดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจ ทั้ง ดูแล รักษา ป้องกัน ส่งเสริมสุขภาพในทุกองค์ประกอบสุขภาพของคุณ” หากท่านต้องการที่จะนัดหมายเพื่อปรึกษาพูดคุยกับแพทย์ สามารถเข้ามารับคำแนะนำได้ที่ พรีโมแคร์ เมดิคอล คลินิก เราพร้อมดูแลรักษาสุขภาพร่างกาย และจิตใจของท่านให้แข็งแรงอย่างครบถ้วน สามารถสอบถามหรือนัดหมายล่วงหน้าที่นี่ 

บทความที่เกี่ยวข้อง

Categories
Uncategorized

ลดน้ำหนักอย่างไรให้ปลอดภัย เห็นผลลัพธ์อย่างยั่งยืน

    /    บทความ    /    ลดน้ำหนักอย่างไรให้ปลอดภัย เห็นผลลัพธ์อย่างยั่งยืน

ภาวะข้อไหล่ติดรักษาได้ด้วยกายภาพบำบัด

ลดน้ำหนักอย่างไรให้ปลอดภัย เห็นผลลัพธ์อย่างยั่งยืน

โรคอ้วน เกิดจากการรับประทานอาหารมากเกินความต้องการของร่างกาย รับประทานอาหารจุกจิก หลายมื้อ หรือรับประทานอาหารที่มีแคลอรี่สูง โดยไม่ออกกำลังกาย ทั้งนี้ผู้ที่เป็นโรคอ้วนลงพุง (metabolic syndrome) มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นต่อการเกิดโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง นิ่วในถุงน้ำดี  โรคหัวใจและหลอดเลือด  

เมื่อไหร่ ถึงควรลดน้ำหนัก? 

โรคอ้วนสามารถวินิจฉัยได้ จากการคำนวณค่าดัชนีมวลกาย (body mass index, BMI) โดยใช้ น้ำหนัก หารด้วยส่วนสูง หน่วยเป็น เมตร ยกกำลังสอง [BMI = น้ำหนัก (กก) / ส่วนสูง (ม)2 ]  

  • หากมีค่าดัชนีมวลกาย ≥ 23 กก./ม2 จัดว่ามีน้ำหนักตัวเกิน (overweight) 
  • หากมีค่าดัชนีมวลกาย ≥ 25 กก./ม2 จัดว่าเป็นโรคอ้วนลงพุง (metabolic syndrome)

สำหรับคนไทย เส้นรอบเอวเพศชาย ไม่ควรมีรอบเอวเกิน 90 เซนติเมตร (36 นิ้ว) และ เพศหญิง ไม่ควรมีรอบเอวเกิน 80 เซนติเมตร (32 นิ้ว)

ลดน้ำหนักให้ได้ผลและดีต่อสุขภาพ 

การลดน้ำหนักที่ถูกต้อง คือ การควบคุมอาหารควบคู่กับการออกกำลังกาย โดยการควบคุมอาหารจะมีผลมากกว่า ควรควบคุมพลังงานแคลลอรี่ไม่ให้เกินที่ร่างกายต้องการ ลดอาหาร ประเภทไขมันอิ่มตัวลง เน้นสารอาหารโปรตีน จำกัดการรับประทานเกลือและน้ำตาล ช่วยให้สามารถควบคุมน้ำหนักได้ในระยะยาวไม่เกิดภาวะโยโย่ (YOYO Effect) จนทำให้กลับมาอ้วนเหมือนเดิม โดยสามารถทำได้ดังนี้

 

  • เปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร ผู้ที่มีภาวะอ้วนควรลด ละ เลิก อาหารที่มีเกลือและน้ำตาลสูง รวมทั้งหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์ หันมารับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยการ รับประทานอาหารที่หลากหลาย และรับประทานผักและผลไม้ให้ได้วันละ 5 ส่วน 
  • ออกกำลังกาย การออกกำลังกายที่เหมาะสมที่สุดคือ ออกกำลังกายที่มีความหนักหน่วงปานกลางอย่างน้อย 200 นาทีต่อสัปดาห์ ในกรณีควบคุมแคลอรี่และออกกำลังกายควบคู่ ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์  โดยการออกกำลังกายที่เหมาะสมสำหรับการลดน้ำหนักที่สุด คือ 

– การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ (Cardio Exercise) ได้แก่ การวิ่ง การว่ายน้ำ การปั่นจักรยาน
– การสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ (Strength Training) ได้แก่ การใช้ยางยืดออกกำลังกาย การออกกำลังกายแบบบอดี้เวท (Body Weight) หรือเวทเทรนนิ่ง (Weight Training)

  • ปรับเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิต ผู้ที่ต้องการจะลดน้ำหนักควรปรับเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิต โดยตั้งเป้าหมายให้แน่วแน่ ทำอย่างต่อเนื่อง และติดตามผลอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้การลดน้ำหนักเป็นไปได้ตามแผนที่วางไว้

จะเป็นอย่างไรหากลดน้ำหนักที่ผิดวิธี

การอดอาหารหรือกินน้อยกว่าที่ร่างกายต้องการมากเกินไป ไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพ ทำให้ขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย จะส่งผลให้ร่างกายไม่มีเรี่ยวแรง ขาดสารอาหารไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ อาจทำให้ ส่งผลเสียรุนแรงต่อสุขภาพได้ นอกจากนี้การซื้อยา หรืออาหารเสริมลดน้ำหนักมาใช้เอง โดยไม่ได้อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ส่งผลให้ผู้ป่วยได้รับผลข้างเคียงที่รุนแรงจากการใช้ยา โดยมักจะมีตัวยาดังนี้

  1. ยาลดความอยากอาหาร เช่น เฟนเตอมีน (Phentermine) หากใช้ไม่ถูกวิธี อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง ดังนี้ นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย ปวดศีรษะ หัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตสูง อาจหมดสติหรือชักได้ หากรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดการติดยาและเกิดอาการถอนยาได้
  2. ไทรอยด์ฮอร์โมน น้ำหนักที่ลดลงเกิดจากการสลายโปรตีนจากกล้ามเนื้อแทนที่จะเป็นไขมัน ทำให้เกิดผลข้างเคียง คือ เกิดอาการใจสั่นหรือหัวใจเต้นผิดจังหวะ
  3. ยาถ่ายหรือยาระบาย ไม่มีผลในการลดแคลอรี่ที่ร่างกายได้รับ เป็นการขับอาหารออกจากทางเดินอาหาร หากใช้ปริมาณมาก อาจทำให้เกิดอาการท้องเดิน ร่างกายสูญเสียสมดุลของน้ำและเกลือแร่ เกิดอันตรายได้ และการใช้ยาระบายติดต่อกันนานๆ ส่งผลร่างกาย เกิดปัญหาการขับถ่ายได้

หากคุณต้องการความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการลดน้ำหนัก สามารถเข้ามารับคำปรึกษาได้ที่ พรีโมแคร์ เมดิคอล คลินิก เพื่อเข้าร่วมโปรแกรม Personalized Lifestyle Medicine ที่ออกแบบมาเพื่อเฉพาะบุคคล เราพร้อมดูแลรักษาสุขภาพร่างกาย และจิตใจของท่านให้แข็งแรงอย่างครบถ้วน สามารถสอบถามหรือนัดหมายล่วงหน้าที่นี่  

Reference

บทความที่เกี่ยวข้อง

Categories
Uncategorized

ออกกำลังกายถูกวิธี สร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย

    /    บทความ    /    ออกกำลังกายถูกวิธี สร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย

ภาวะข้อไหล่ติดรักษาได้ด้วยกายภาพบำบัด

ออกกำลังกายถูกวิธี สร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย

การออกกำลังกายเป็นการดูแลสุขภาพที่ช่วยเสริมสมรรถภาพร่างกาย เพิ่มความแข็งแกร่ง สร้างภูมิคุ้มกันและทำให้มีจิตใจที่ร่าเริงแจ่มใส ทั้งนี้ผู้รักการออกกำลังกายจะต้องเข้าใจพื้นฐานและมีการเตรียมพร้อมที่ดี เพื่อให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน และช่วยลดอันตราย การบาดเจ็บในระหว่างการออกกำลังกาย

ประเภทในการออกกำลังกาย 

การออกกำลังกายมีหลายประเภท สามารถแบ่งออกได้ดังนี้

  • การออกกำลังกายแบบแอโรบิก (Aerobic Exercise) คือ การออกกำลังกายแบบที่ร่างกายมีอาการใช้อากาศหรือออกซิเจน โดยให้ความสำคัญกับการหายใจในขณะที่กำลังออกกำลังกายเพื่อนำเอาออกซิเจนไปเป็นตัวช่วยในการเผาผลาญพลังงาน การออกกำลังกายแบบแอโรบิก ยกตัวอย่างเช่น เดินเร็ว ว่ายน้ำ จ็อกกิ้ง ปั่นจักรยาน หรือทำกิจกรรมเข้าจังหวะ โดยควรทำกิจกรรมต่อเนื่องกันอย่างน้อยวันละ 30 นาที หรือสัปดาห์ละ 150 นาที
  • การออกกำลังเสริมการทรงตัว (Balance Exercise) คือ การฝึกการประสานงานของกล้ามเนื้อและข้อต่อ ช่วยเพิ่มกำลังกล้ามเนื้อ รักษาท่าทางอิริยาบถ และเพิ่มความไวในการเปลี่ยนท่าทาง การฝึกเหล่านี้จำเป็นต้องฝึกอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง 
  • การออกกำลังแบบฝึกกล้ามเนื้อ (Strength Training) คือ การออกกำลังกายชนิดหนึ่งที่มุ่งเน้นการเพิ่มจำนวนของมวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อในส่วนต่างๆ ทั่วร่างกาย ซึ่งการออกกำลังกายลักษณะนี้อาจใช้อุปกรณ์ช่วย เช่น สปริงยึด หรือดัมเบล ทั้งนี้ ควรบริหารกล้ามเนื้อมัดใหญ่สัปดาห์ละ 2 วันหรือมากกว่านั้น และฝึกกล้ามเนื้อครั้งละประมาณ 30 นาที  โดยไม่ควรฝึกกล้ามเนื้อกลุ่มเดียวกันติดกัน 2 วัน
  • การยืดเส้น (Stretching) การยืดกล้ามเนื้อ เป็นการกระตุ้นให้กล้ามเนื้อมีความพร้อมสำหรับการออกกำลังกาย สามารถช่วยป้องกันอาการบาดเจ็บได้ ทำให้มัดกล้ามเนื้อผ่อนคลายและมีความยืดหยุ่น โดยการยืดเส้นควรทำทุกวันหรืออย่างน้อยสัปดาห์ละ 3–4 ครั้ง โดยยืดเส้นกล้ามเนื้อช้าๆ พยายามยืดให้ได้มากที่สุด ค้างไว้ 10–30 วินาที แล้วค่อยผ่อน หายใจ และทำซ้ำ
ประโยชน์ในการออกกำลังกายต่อร่างกาย

การออกกำลังกายมีประโยชน์ต่อร่างกาย ดังนี้

การส่งเสริมสุขภาพ ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ เอ็น และข้อต่อ ช่วยให้ร่างกายกระชับ ได้รูปทรงและสัดส่วนสวยงาม รวมถึงช่วยในการป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด ความดันโลหิตสูง  เบาหวาน มะเร็งลำไส้ และอื่นๆ ดังนี้

  • ช่วยเผาผลาญและลดไขมันที่สะสมในร่างกาย
  • เพิ่มการเผาผลาญสารอาหารในร่างกาย (ในกระบวนการเมตะโบลิซึม)
  • ช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร การดูดซึม และการทำงานของอวัยวะภายในร่างกาย
  • ช่วยป้องกันและชะลอความเสื่อมสภาพของกล้ามเนื้อและกระดูก

การรักษาสุขภาพ การออกกำลังกายมีผลต่อสุขภาพ ได้แก่ ระบบกล้ามเนื้อและโครงร่าง ระบบไหลเวียนโลหิต  ระบบหายใจ  ระบบประสาท และป้องกันไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนไม่ติดต่อเรื้อรังทั้ง 5 โรค ได้แก่

  • ผลต่อระบบกล้ามเนื้อและโครงร่าง
  • ระบบไหลเวียนโลหิต 
  • ระบบหายใจ 
  • ระบบประสาท
การฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย โดยการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ  การทำกายภาพบำบัด ในผู้ที่มีปัญหาจาก การได้รับอุบัติเหตุ และมีความบกพร่องของอวัยวะต่างๆ


ออกกำลังกายช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

อ้างอิงจากงานวิจัยตีพิมพ์ทางวารสารวิชาการ “British Journal of Sports Medicine” พบว่า ผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีประวัติของการกิจกรรมทางกายน้อยกว่า 150 นาทีต่อสัปดาห์ จะมีอัตราความรุนแรงของอาการโรค สูงกว่าผู้ป่วยที่มีกิจกรรมทางกายสม่ำเสมอ 150 นาทีขึ้นไปต่อสัปดาห์ ทั้งนี้องค์การอนามัยโลก(WHO) แนะนำให้มีกิจกรรมทางกายที่เหมาะสม ในแต่ช่วงละวัย โดยแบ่งกิจกรรมทางกายเป็น 3 ระดับ คือ

  1. ระดับเบา เป็นการขยับร่างกาย ยืน เดิน ปกติ
  2. ระดับปานกลาง เป็นกิจกรรมที่ส่งผลให้การหายใจเร็วขึ้นจากระดับปกติจน รู้สึกได้ถึงความเหนื่อย เช่น เดินเร็ว ปั่นจักรยาน
  3. ระดับหนัก เป็นกิจกรรมที่ส่งผลให้มีการหายใจแรง อัตราการเต้นของหัวใจเต้นเร็วขึ้นจากปกติอย่างมาก จนทำให้รู้สึกเหนื่อยหอบ เช่น เต้นแอโรบิก ซุมบ้า
ทั้งนี้สำหรับเด็กและวัยรุ่น ควรมีกิจกรรมทางกายระดับปานกลาง-หนัก สะสมอย่างน้อย 60 นาทีต่อวัน ส่วนผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ ควรมีกิจกรรมทางกายระดับปานกลาง สะสมให้ได้อย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ หรือวันละ 30 นาที 5 วันต่อสัปดาห์ และกิจกรรมทางกายระดับหนักสะสมให้ได้อย่างน้อย 75 นาทีต่อสัปดาห์ หรือวันละ 15 นาที 5 วันต่อสัปดาห์ ร่วมกับการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอและทานอาหารที่มีประโยชน์ถูกสุขอนามัย

หากคุณต้องการความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน สามารถเข้ามารับคำปรึกษาได้ที่ พรีโมแคร์ เมดิคอล คลินิก เพื่อเข้าร่วมโปรแกรม Personalized Lifestyle Medicine ที่ออกแบบมาเพื่อเฉพาะบุคคล เราพร้อมดูแลรักษาสุขภาพร่างกาย และจิตใจของท่านให้แข็งแรงอย่างครบถ้วน สามารถสอบถามหรือนัดหมายล่วงหน้าที่นี่.
 

Reference

บทความที่เกี่ยวข้อง