คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (“คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว”) ฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ท่าน ซึ่งเป็นลูกค้าของบริษัท ได้แก่ ผู้ป่วย ผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะฉุกเฉินหรือหมดสติ ผู้ที่สนใจเข้ารับบริการทางการแพทย์ บุคลากรของบริษัท ผู้สมัครงาน คู่ค้าทางธุรกิจ และผู้เข้าร่วมในกิจกรรมทางการตลาด หรือบุคคลใดที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่กล่าวถึงเหล่านั้น (รวมเรียกว่า “ท่าน”) ได้ทราบถึงวิธีการที่บริษัท บี-เฟิร์ส เมดิคอล จำกัด ในฐานะผู้ประกอบกิจการ พรีโมแคร์ เมดคอล สหคลินิก และ พรีโมแคร์ เมดคอล คลินิก (“บริษัท”) เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตลอดจนสิทธิตามกฎหมายของท่านที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
ดังนั้นเพื่อให้ท่านเข้าใจถึงวิธีการที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตลอดจนสิทธิความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โปรดอ่านคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวฉบับนี้อย่างละเอียดและประกาศที่บริษัทอาจเปลี่ยนแปลงในอนาคตเป็นครั้งคราวเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติของบริษัท และ/หรือ การปฏิบัติตามข้อบังคับทางกฎหมาย
ในการทำธุรกรรมใดที่เกี่ยวข้องกับบริษัท ท่าน และ/หรือ บิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้แทนโดยชอบธรรมของท่าน (ในกรณีที่ท่านมีอายุต่ำกว่า 20 ปี) ยืนยันและยอมรับในแนวทางปฏิบัติและวิธีการซึ่งระบุไว้ในคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ นอกจากนี้ ท่านยอมรับว่าการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามให้แก่บริษัทเพื่อวัตถุประสงค์ของบริษัทตามที่กำหนดไว้ด้านล่างนี้ เป็นการเปิดเผยข้อมูลโดยท่านที่ได้รับความยินยอมจากบุคคลที่สามดังกล่าวแล้ว
คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ใช้บังคับกับ (1) ลูกค้าของบริษัท ได้แก่ ผู้ป่วย ผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะฉุกเฉินหรือหมดสติ ผู้ที่สนใจเข้ารับบริการทางการแพทย์ (2) บุคลากรของบริษัท (3) ผู้สมัครงาน (4) คู่ค้าทางธุรกิจ (5) บล็อกเกอร์ อินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) และผู้เข้าร่วมในกิจกรรมทางการตลาด หรือ (6) บุคคลใดที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่กล่าวถึงเหล่านั้น ตลอดจนบุคคลอื่นที่มีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับบริษัท เช่น บริษัทตัวแทนการตลาด สำนักงานกฎหมาย บริษัทประกันภัย หรือบริษัทจัดหางาน
ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม ได้แก่ ข้อมูลใดๆ ซึ่งสามารถใช้ในการระบุตัวตนของท่านได้ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม ดังต่อไปนี้
รายละเอียดเพิ่มเติมปรากฏตามนโยบายความเป็นส่วนตัว เรื่อง “ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม”
2. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากช่องทางต่างๆ ดังต่อไปนี้
3. วัตถุประสงค์ในการเก็บ รวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ภายใต้ฐานทางกฎหมาย ซึ่งรวมถึงกรณี (ก) เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาและเงื่อนไขการให้บริการระหว่างท่านกับบริษัท (ข) เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (ค) เพื่อป้องกันและระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น (ง) เพื่อการดำเนินตามภาระหน้าที่ทางกฎหมาย และ/หรือ (จ) ภายใต้ฐานทางกฎหมายอื่นๆ แล้วแต่กรณี
นอกจากนี้บริษัทอาจขอความยินยอมจากท่านอย่างเฉพาะเจาะจงเพื่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์บางประการ ตามรายละเอียดดังต่อไปนี้
3.1 ผู้ป่วยและบุคคลที่เกี่ยวข้อง (เช่น ญาติ)
วัตถุประสงค์
ฐานตามกฎหมายสำหรับการประมวลผล
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
วัตถุประสงค์
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
ฐานตามกฎหมายสำหรับการประมวลผล
3.2 ผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะฉุกเฉินหรือหมดสติและบุคคลที่เกี่ยวข้อง (เช่น ผู้นำส่ง)
วัตถุประสงค์
ฐานตามกฎหมายสำหรับการประมวลผล
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
วัตถุประสงค์
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
ฐานตามกฎหมายสำหรับการประมวลผล
3.3 บุคลากรของบริษัทและบุคคลที่เกี่ยวข้อง (เช่น ผู้ค้ำประกัน)
วัตถุประสงค์
ฐานตามกฎหมายสำหรับการประมวลผล
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
วัตถุประสงค์
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
ฐานตามกฎหมายสำหรับการประมวลผล
3.4 ผู้สมัครงานและบุคคลที่เกี่ยวข้อง (เช่น บุคคลอ้างอิง)
วัตถุประสงค์
ฐานตามกฎหมายสำหรับการประมวลผล
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
วัตถุประสงค์
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
ฐานตามกฎหมายสำหรับการประมวลผล
3.5 คู่ค้าทางธุรกิจและบุคคลที่เกี่ยวข้อง (เช่น ผู้ถือหุ้น กรรมการ หรือผู้ประสานงาน ในกรณีที่คู่ค้าทางธุรกิจเป็นนิติบุคคล)
วัตถุประสงค์
ฐานตามกฎหมายสำหรับการประมวลผล
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
วัตถุประสงค์
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
ฐานตามกฎหมายสำหรับการประมวลผล
3.6 ผู้ที่สนใจเข้ารับบริการทางการแพทย์
วัตถุประสงค์
ฐานตามกฎหมายสำหรับการประมวลผล
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
วัตถุประสงค์
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
ฐานตามกฎหมายสำหรับการประมวลผล
3.7 บล็อกเกอร์ อินฟลูเอนเซอร์และผู้เข้าร่วมในกิจกรรมทางการตลาดของบริษัท
วัตถุประสงค์
ฐานตามกฎหมายสำหรับการประมวลผล
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
วัตถุประสงค์
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
ฐานตามกฎหมายสำหรับการประมวลผล
4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกดังต่อไปนี้ เพื่อประโยชน์ในการให้บริการแก่ท่านและดำเนินตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ข้างต้น
นอกจากนี้ บริษัทอาจขอความยินยอมเพิ่มเติมจากท่านเป็นครั้งคราวเพื่อให้บริษัทสามารถเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบางประเภท (เช่น ชื่อบัญชีผู้ใช้งานบนสื่อโซเชียลมีเดีย และความคิดเห็นต่อแพลตฟอร์มของบริษัท) บนสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ของบริษัทเพื่อประโยชน์ด้านการประชาสัมพันธ์แพลตฟอร์ม ซึ่งท่านมีสิทธิไม่ให้ความยินยอมแก่บริษัทได้
5. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ
เนื่องจากบริษัทใช้บริการคลาวด์ของผู้ให้บริการในต่างประเทศได้แก่ Google Cloud Platform (GCP) เพื่อประโยชน์ในการให้บริการแก่ท่าน ดังนั้น บริษัทจึงจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังประเทศของผู้ให้บริการนั้น
เพื่อการจัดเก็บและประมวลผลซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินธุรกิจตามปกติของบริษัท นอกจากนี้ บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังสถานพยาบาลปลายทาง ห้องปฏิบัติการและวินิจฉัยทางการแพทย์ และผู้ผลิตเครื่องมือทางการแพทย์ในต่างประเทศ (เช่น สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี) รวมถึงผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในต่างประเทศ ที่บริษัทมอบหมายหรือว่าจ้างให้ทำหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัท (เช่น Google Analytics Google Ads และ Facebook Ads) ทั้งนี้ บริษัทจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังประเทศปลายทางที่มีความน่าเชื่อถือ และมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เทียบเท่าตามที่กฎหมายในประเทศได้กำหนดเอาไว้
6. การจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทได้ใช้มาตรการรักษาความปลอดภัย ทั้งมาตรการในการบริหารจัดการ (Organizational Measure) และมาตรการเชิงเทคนิค (Technical Measure) ที่เหมาะสมเพื่อจัดเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ยกตัวอย่างเช่น การใช้มาตรการเข้ารหัสและการจัดเก็บข้อมูลไว้ในตู้เอกสารที่ปิดล็อกเพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต การใช้ระบบล็อคประตูดิจิตัลเพื่อจำกัดบุคคลผู้มีสิทธิเข้าถึงข้อมูล การจัดเก็บข้อมูลไว้ในระบบกูเกิลคลาวด์ (Google Cloud) และ ไอเน็ท (INET) เพื่อป้องกันข้อมูลสูญหาย และการใช้ไฟร์วอลล์ (Firewall) นอกจากนี้ บุคลากรและผู้ให้บริการภายนอกของบริษัทมีหน้าที่ต้องรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล และต้องปฏิบัติตามมาตรฐานและนโยบายการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่เคร่งครัดเมื่อมีการใช้ ส่ง โอน หรือประมวลผลใดๆ กับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ในกรณีที่บริษัทหรือท่านได้กำหนดรหัสผ่านเพื่อการเข้าใช้บริการแพลตฟอร์มของบริษัท ท่านจะต้องรับผิดชอบในการรักษารหัสผ่านดังกล่าวไว้เป็นความลับเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยมิชอบ
7. ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะจัดเก็บบรรดาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เท่าที่จำเป็น ตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดเกี่ยวกับการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้โดยเฉพาะ อย่างไรก็ดี ในกรณีที่กฎหมายไม่ได้กำหนดระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้โดยเฉพาะ บริษัทจะกำหนดระยะเวลาในการจัดเก็บตามความจำเป็นที่เหมาะสมในการปฏิบัติงานของบริษัท ดังต่อไปนี้
8. สิทธิของท่าน
ท่านสามารถขอใช้สิทธิอันเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ได้โดยการติดต่อบริษัทผ่านช่องทางที่ชี้แจงไว้ในข้อ 13 และหากท่านมีอายุไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์ หรือถูกจำกัดความสามารถในการทำนิติกรรมตามกฎหมาย ท่านสามารถขอใช้สิทธิโดยให้บิดาและมารดา ผู้ใช้อำนาจปกครอง หรือมีผู้อำนาจกระทำการแทนเป็นผู้แจ้งความประสงค์ ซึ่งบริษัทจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดที่จะดำเนินการหรือชี้แจงภายใน 30 (สามสิบ) วัน หรือภายในระยะเวลาที่เหมาะสม โดยท่านมีสิทธิดังต่อไปนี้
การใช้สิทธิของท่านอาจถูกจำกัดหรือถูกปฏิเสธได้ด้วยเหตุผลบางประการ เช่น การใช้สิทธิของท่านอาจขัดต่อกฎหมาย/คำสั่งของหน่วยงานที่มีอำนาจ เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือการใช้สิทธินั้นอาจกระทบต่อเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น ทั้งนี้ บริษัทจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบด้วย
9. นโยบายคุกกี้
ท่านสามารถขอใช้สิทธิอันเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ได้โดยการติดต่อบริษัทผ่านช่องทางที่ชี้แจงไบริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้คุกกี้รวมถึงเทคโนโลยีอื่นในลักษณะเดียวกันเมื่อท่านใช้บริการแพลตฟอร์มของบริษัท เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ (1) เพื่อวิเคราะห์และประมวลผลการใช้งานแพลตฟอร์มของท่าน (2) เพื่อเพิ่มประสบการณ์และความพึงพอใจของท่าน (3) เพื่อวัตถุประสงค์ในการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ของบริษัท และ (4) เพื่อปรับแต่งแคมเปญทางการตลาดให้เหมาะสมกับความสนใจของท่าน โดยท่านสามารถตั้งค่าหรือลบการใช้งานคุกกี้ได้ด้วยตนเองจากการตั้งค่าแอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือหรือเว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) ของท่าน ซึ่งจะทำให้ท่านสามารถปฏิเสธการใช้งานคุกกี้ทั้งหมดหรือบางส่วนได้ อย่างไรก็ตาม ท่านอาจไม่สามารถเข้าใช้แพลตฟอร์มของบริษัทได้บางส่วน
บริษัทขอแจ้งให้ท่านทราบว่าบุคคลที่สาม (เช่น เครือข่ายโฆษณาและผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ให้บริการวิเคราะห์การเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ เป็นต้น) อาจใช้คุกกี้ดังกล่าวด้วยเช่นกัน ซึ่งบริษัทไม่มีอำนาจควบคุมการดำเนินงานดังกล่าว การใช้งานคุกกี้มักจะทำให้แพลตฟอร์มของบริษัทและโฆษณาที่แสดงบนแพลตฟอร์มของบริษัทมีความเกี่ยวข้องกับความสนใจของท่านมากขึ้น และทำให้สามารถพัฒนาการทำงานของแพลตฟอร์มของบริษัทได้
10. สื่อทางการตลาด
เมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านไม่ว่าผ่านแพลตฟอร์มหรือด้วยวาจา บริษัทอาจนำเสนอข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการตลาด และข้อเสนอที่เกี่ยวกับการส่งเสริมการขายและกิจกรรมทางการตลาดของบริษัท และ/หรือ พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทที่ท่านอาจสนใจและเป็นประโยชน์แก่ท่าน (“สื่อทางการตลาด”) ผ่านการแจ้งเตือนบนแพลตฟอร์ม โทรศัพท์ และ/หรือ อีเมล ทั้งนี้ ท่านสามารถยกเลิกการรับข้อมูลสื่อทางการตลาดนั้นได้ทุกเมื่อผ่านแพลตฟอร์ม ผ่านช่องทางการติดต่อของบริษัท และ/หรือ เมื่อได้รับการติดต่อจากบริษัท
บริษัทขอแจ้งให้ท่านทราบว่าหากท่านเลือกที่จะไม่รับข้อมูลดังกล่าว บริษัทจะยังคงสามารถส่งข้อความที่ไม่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการขายหรือข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานแพลตฟอร์มเพื่อประโยชน์ของท่านได้ต่อไป
11. การเปลี่ยนแปลง
บริษัทขอสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เป็นครั้งคราวเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติของบริษัท และ/หรือ การปฏิบัติตามข้อบังคับทางกฎหมาย โดยบริษัทจะแจ้งให้ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวผ่านช่องทางที่เหมาะสม ทั้งนี้ หากการเปลี่ยนแปลงนั้นกระทบต่อสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในสาระสำคัญ บริษัทอาจขอความยินยอมก่อนดำเนินการเปลี่ยนแปลงใดๆ ตามที่กฎหมายกำหนด
ทั้งนี้ บริษัทแนะนำให้ท่านตรวจสอบเป็นระยะเพื่อให้ทราบถึงการปรับปรุงหรือการเปลี่ยนแปลงคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวนี้
หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับนโยบายฉบับนี้ หรือประสงค์ขอใช้สิทธิของท่าน ตลอดจนร้องเรียนใดๆ อันเกี่ยวกับการดำเนินการของบริษัทบนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถติดต่อบริษัทได้ผ่านช่องทางดังต่อไปนี้
ให้พรีโมเเคร์ เมดิคอล ดูเเลทุกองค์ประกอบสุขภาพของคุณ ทั้งด้านรักษา ป้องกัน เเละส่งเสริมสุขภาพ เพื่อให้คุณมีสุขภาพเเข็งเเรงเเบบยั่งยืน
1 ซอยกรุงเทพกรีฑา 4 (บี.กริม) แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240 ประเทศไทย
โทร: +66 2038 5595
LINE ID: @primocare
อีเมล: [email protected]
©2022 PrimoCare Medical Limited. All rights reserved.