คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว
บริษัท บี-เฟิร์ส เมดิคอล จำกัด

คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (“คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว”) ฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ท่าน ซึ่งเป็นลูกค้าของบริษัท ได้แก่ ผู้ป่วย ผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะฉุกเฉินหรือหมดสติ ผู้ที่สนใจเข้ารับบริการทางการแพทย์ บุคลากรของบริษัท ผู้สมัครงาน คู่ค้าทางธุรกิจ และผู้เข้าร่วมในกิจกรรมทางการตลาด หรือบุคคลใดที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่กล่าวถึงเหล่านั้น (รวมเรียกว่า “ท่าน”) ได้ทราบถึงวิธีการที่บริษัท บี-เฟิร์ส เมดิคอล จำกัด ในฐานะผู้ประกอบกิจการ พรีโมแคร์ เมดคอล สหคลินิก และ พรีโมแคร์ เมดคอล คลินิก (“บริษัท”) เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตลอดจนสิทธิตามกฎหมายของท่านที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง 

ดังนั้นเพื่อให้ท่านเข้าใจถึงวิธีการที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตลอดจนสิทธิความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โปรดอ่านคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวฉบับนี้อย่างละเอียดและประกาศที่บริษัทอาจเปลี่ยนแปลงในอนาคตเป็นครั้งคราวเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติของบริษัท และ/หรือ การปฏิบัติตามข้อบังคับทางกฎหมาย

ในการทำธุรกรรมใดที่เกี่ยวข้องกับบริษัท ท่าน และ/หรือ บิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้แทนโดยชอบธรรมของท่าน (ในกรณีที่ท่านมีอายุต่ำกว่า 20 ปี) ยืนยันและยอมรับในแนวทางปฏิบัติและวิธีการซึ่งระบุไว้ในคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ นอกจากนี้ ท่านยอมรับว่าการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามให้แก่บริษัทเพื่อวัตถุประสงค์ของบริษัทตามที่กำหนดไว้ด้านล่างนี้ เป็นการเปิดเผยข้อมูลโดยท่านที่ได้รับความยินยอมจากบุคคลที่สามดังกล่าวแล้ว

การบังคับใช้

คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ใช้บังคับกับ (1) ลูกค้าของบริษัท ได้แก่ ผู้ป่วย ผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะฉุกเฉินหรือหมดสติ ผู้ที่สนใจเข้ารับบริการทางการแพทย์ (2) บุคลากรของบริษัท (3) ผู้สมัครงาน (4) คู่ค้าทางธุรกิจ (5)  บล็อกเกอร์ อินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) และผู้เข้าร่วมในกิจกรรมทางการตลาด หรือ (6) บุคคลใดที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่กล่าวถึงเหล่านั้น ตลอดจนบุคคลอื่นที่มีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับบริษัท เช่น บริษัทตัวแทนการตลาด สำนักงานกฎหมาย บริษัทประกันภัย หรือบริษัทจัดหางาน 

1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม

ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม ได้แก่ ข้อมูลใดๆ ซึ่งสามารถใช้ในการระบุตัวตนของท่านได้ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม ดังต่อไปนี้ 

  1. ข้อมูลส่วนตัว 
  2. ข้อมูลสุขภาพ 
  3. ข้อมูลชีวมิติ 
  4. ข้อมูลบุคคลในครอบครัว  
  5. ข้อมูลบุคคลที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน และข้อมูลบุคคลที่เกี่ยวข้อง 
  6. ข้อมูลผู้ค้ำประกัน 
  7. ข้อมูลการศึกษาและการขึ้นทะเบียนสมาชิกภาพ 
  8. ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการทำงานและประวัติการฝึกอบรม 
  9. ข้อมูลทางความสามารถและความสนใจส่วนตัว 
  10. ข้อมูลเกี่ยวกับการสมัครงานและข้อมูลบุคคลอ้างอิง 
  11. ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานและการประเมินผลการทำงาน 
  12. ข้อมูลทางการเงินและสิทธิประโยชน์ต่างๆ 
  13. ข้อมูลการคู่ค้าทางธุรกิจ 
  14. บันทึกเสียงการสนทนาและการสื่อสาร 
  15. ข้อมูลโซเชียลมีเดีย 
  16. ข้อมูลด้านเทคนิค 
  17. ข้อมูลอื่นๆ 

รายละเอียดเพิ่มเติมปรากฏตามนโยบายความเป็นส่วนตัว เรื่อง “ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม”

2. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากช่องทางต่างๆ ดังต่อไปนี้ 

  1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้จากท่านโดยตรง เช่น เมื่อท่านส่งมอบข้อมูลให้กับบริษัทโดยตรง ผ่านการตอบแบบสอบถามหรือกูเกิลฟอร์ม (Google Form) และ/หรือ ผ่านช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทางโทรศัพท์ อีเมล แอปพลิเคชัน PrimoCare Patient  เว็บไซต์ www.primocare.com และ/หรือ สื่อโซเชียลมีเดียอื่น เช่น เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ไลน์แอปพลิเคชัน (Line) รวมถึงข้อมูลที่ได้รับจากท่านในระหว่างการสมัครงาน  การเป็นบุคลากรของบริษัท รวมทั้งดำเนินธุรกรรมใด ๆ กับบริษัท ตามแต่กรณี เป็นต้น
  2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้จากท่านโดยอัตโนมัติ เช่น บริษัทอาจรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยใช้คุกกี้ (Cookies) และ/หรือเทคโนโลยีอื่นๆที่คล้ายคลึงกัน เป็นต้น
  3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากบุคคลภายนอก เช่น บริษัทตัวแทนการตลาด ผู้ให้บริการรูปชัตเตอร์สต๊อค (shutterstock) บริษัทจัดหางาน (Recruitment Agency) คณะกรรมการสรรหาและคัดเลือกบุคลากร (Talent Acquisition Unit) ซึ่งเป็นหน่วยงานภายในของบริษัทในเครือ ตลอดจนผู้นำส่ง (กรณีที่ท่านเป็นผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะฉุกเฉินหรือหมดสติ)

3. วัตถุประสงค์ในการเก็บ รวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ภายใต้ฐานทางกฎหมาย ซึ่งรวมถึงกรณี (ก) เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาและเงื่อนไขการให้บริการระหว่างท่านกับบริษัท (ข) เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (ค) เพื่อป้องกันและระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น (ง) เพื่อการดำเนินตามภาระหน้าที่ทางกฎหมาย และ/หรือ (จ) ภายใต้ฐานทางกฎหมายอื่นๆ แล้วแต่กรณี 

นอกจากนี้บริษัทอาจขอความยินยอมจากท่านอย่างเฉพาะเจาะจงเพื่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์บางประการ ตามรายละเอียดดังต่อไปนี้

3.1 ผู้ป่วยและบุคคลที่เกี่ยวข้อง (เช่น ญาติ)

วัตถุประสงค์

ฐานตามกฎหมายสำหรับการประมวลผล

ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

  • เพื่อยืนยันตัวตนและตรวจสอบสิทธิการรักษาพยาบาลของท่าน 
  • เพื่อติดต่อสื่อสารกับผู้ป่วยแลบุคคลที่เกี่ยวข้อง 
  • เพื่อจัดหาบริการทางการแพทย์ให้แก่ท่าน
  • เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย รวมถึงก่อสิทธิเรียกร้องใดๆ ทางกฎหมาย (หากมี)
  • ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
  • การปฏิบัติตามสัญญาระหว่างท่านกับบริษัท
  • ความยินยอม
  • ภาระหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท

ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

  • เพื่อยืนยันตัวตนและตรวจสอบสิทธิการรักษาพยาบาลของท่าน 
  • เพื่อการวินิจฉัยโรค
  • เพื่อสนับสนุนการวินิจฉัยโรค (เช่น ผู้ป่วยที่มาจากประเทศอังกฤษหรือสหภาพยุโรปอาจจะเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันจากการรับวัคซีน) 
  • ความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการวินิจฉัยโรคทางการแพทย์ หรือการรักษาทางการแพทย์
  • ความยินยอมโดยชัดแจ้ง

วัตถุประสงค์

ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

  • เพื่อยืนยันตัวตนและตรวจสอบสิทธิการรักษาพยาบาลของท่าน 
  • เพื่อติดต่อสื่อสารกับผู้ป่วยแลบุคคลที่เกี่ยวข้อง 
  • เพื่อจัดหาบริการทางการแพทย์ให้แก่ท่าน
  • เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย รวมถึงก่อสิทธิเรียกร้องใดๆ ทางกฎหมาย (หากมี)

ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

  • เพื่อยืนยันตัวตนและตรวจสอบสิทธิการรักษาพยาบาลของท่าน 
  • เพื่อการวินิจฉัยโรค
  • เพื่อสนับสนุนการวินิจฉัยโรค (เช่น ผู้ป่วยที่มาจากประเทศอังกฤษหรือสหภาพยุโรปอาจจะเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันจากการรับวัคซีน) 

ฐานตามกฎหมายสำหรับการประมวลผล

  • ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
  • การปฏิบัติตามสัญญาระหว่างท่านกับบริษัท
  • ความยินยอม
  • ภาระหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท
  • ความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการวินิจฉัยโรคทางการแพทย์ หรือการรักษาทางการแพทย์
  • ความยินยอมโดยชัดแจ้ง

3.2  ผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะฉุกเฉินหรือหมดสติและบุคคลที่เกี่ยวข้อง (เช่น ผู้นำส่ง)

วัตถุประสงค์

ฐานตามกฎหมายสำหรับการประมวลผล

ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

  • เพื่อยืนยันตัวตนผู้ป่วยก่อนให้บริการ
  • เพื่อให้การดูแลรักษาพื้นฐาน
  • เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย รวมถึงก่อสิทธิเรียกร้องใด ๆ ทางกฎหมาย (หากมี)
  • ป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
  • ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
  • ความยินยอม
  • ภาระหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท

ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

  • เพื่อการวินิจฉัยโรค
  • เพื่อสนับสนุนการวินิจฉัยโรค (เช่น ผู้ป่วยที่มาจากประเทศอังกฤษหรือสหภาพยุโรปอาจจะเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันจากการรับวัคซีน)
  • ความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการวินิจฉัยโรคทางการแพทย์ หรือการรักษาทางการแพทย์
  • ความยินยอมโดยชัดแจ้ง

วัตถุประสงค์

ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

  • เพื่อยืนยันตัวตนผู้ป่วยก่อนให้บริการ
  • เพื่อให้การดูแลรักษาพื้นฐาน
  • เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย รวมถึงก่อสิทธิเรียกร้องใด ๆ ทางกฎหมาย (หากมี)

ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

  • เพื่อการวินิจฉัยโรค
  • เพื่อสนับสนุนการวินิจฉัยโรค (เช่น ผู้ป่วยที่มาจากประเทศอังกฤษหรือสหภาพยุโรปอาจจะเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันจากการรับวัคซีน)

ฐานตามกฎหมายสำหรับการประมวลผล

  • ป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
  • ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
  • ความยินยอม
  • ภาระหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท
  • ความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการวินิจฉัยโรคทางการแพทย์ หรือการรักษาทางการแพทย์
  • ความยินยอมโดยชัดแจ้ง

3.3  บุคลากรของบริษัทและบุคคลที่เกี่ยวข้อง (เช่น ผู้ค้ำประกัน)

วัตถุประสงค์

ฐานตามกฎหมายสำหรับการประมวลผล

ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

  • เพื่อยืนยันตัวตนหรือตรวจสอบบุคคลก่อนบรรจุเข้าทำงาน
  • เพื่อการเข้าทำสัญญาจ้างและสัญญาค้ำประกันการทำงาน 
  • เพื่อติดต่อสื่อสารกับบุคลากร ของบริษัทและบุคคลที่เกี่ยวข้อง
  • เพื่อออกหลักฐานการจ่ายเงินและนำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่าย 
  • เพื่อดำเนินการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ 
  • เพื่อจัดเตรียมเอกสารหลักฐานทางภาษี และออกใบแจ้งหนี้
  • เพื่อให้สวัสดิการและสิทธิประโยชน์ต่างๆ รวมถึงสิทธิการรักษาพยาบาล
  • เพื่อสร้างบัญชีสำหรับเข้าถึง ระบบ HIS Server 
  • เพื่อสร้างบัญชีอีเมลของบริษัทเพื่อติดต่อสื่อสารภายใน/ภายนอกองค์กร
  • เพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับจ้างงาน 
  • เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย รวมถึงก่อสิทธิเรียกร้องใดๆ ทางกฎหมาย (หากมี)
  • ป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
  • ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
  • ความยินยอม
  • ภาระหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท

ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

  • เพื่อการเข้าทำสัญญา
  • เพื่อตรวจร่างกายก่อนเข้าทำงาน 
  • เพื่อตรวจตรารักษาความปลอดภัยของบุคคล และทรัพย์สินของบริษัท
  • เพื่อการเข้าถึงพื้นที่ส่วนบุคคลหรือพื้นที่หวงห้าม
  • ความยินยอมโดยชัดแจ้ง

วัตถุประสงค์

ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

  • เพื่อยืนยันตัวตนหรือตรวจสอบบุคคลก่อนบรรจุเข้าทำงาน
  • เพื่อการเข้าทำสัญญาจ้างและสัญญาค้ำประกันการทำงาน 
  • เพื่อติดต่อสื่อสารกับบุคลากร ของบริษัทและบุคคลที่เกี่ยวข้อง
  • เพื่อออกหลักฐานการจ่ายเงินและนำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่าย 
  • เพื่อดำเนินการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ 
  • เพื่อจัดเตรียมเอกสารหลักฐานทางภาษี และออกใบแจ้งหนี้
  • เพื่อให้สวัสดิการและสิทธิประโยชน์ต่างๆ รวมถึงสิทธิการรักษาพยาบาล
  • เพื่อสร้างบัญชีสำหรับเข้าถึง ระบบ HIS Server 
  • เพื่อสร้างบัญชีอีเมลของบริษัทเพื่อติดต่อสื่อสารภายใน/ภายนอกองค์กร
  • เพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับจ้างงาน 
  • เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย รวมถึงก่อสิทธิเรียกร้องใดๆ ทางกฎหมาย (หากมี)

ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

  • เพื่อการเข้าทำสัญญา
  • เพื่อตรวจร่างกายก่อนเข้าทำงาน 
  • เพื่อตรวจตรารักษาความปลอดภัยของบุคคล และทรัพย์สินของบริษัท
  • เพื่อการเข้าถึงพื้นที่ส่วนบุคคลหรือพื้นที่หวงห้าม

ฐานตามกฎหมายสำหรับการประมวลผล

  • ป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
  • ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
  • ความยินยอม
  • ภาระหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท
  • ความยินยอมโดยชัดแจ้ง

3.4  ผู้สมัครงานและบุคคลที่เกี่ยวข้อง (เช่น บุคคลอ้างอิง)

วัตถุประสงค์

ฐานตามกฎหมายสำหรับการประมวลผล

ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

  • เพื่อการรับสมัครงาน คัดเลือกผู้สมัครงาน การสัมภาษณ์ และการดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสมัครงาน
  • เพื่อติดต่อสื่อสารกับผู้สมัครงานและบุคคลที่เกี่ยวข้อง
  • ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
  • ความยินยอม
  • ภาระหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท

ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

  • เพื่อวัตถุประสงค์ในการรับสมัครงาน คัดเลือกผู้สมัครงาน การสัมภาษณ์ และการดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสมัครงาน
  • ความยินยอมโดยชัดแจ้ง

วัตถุประสงค์

ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

  • เพื่อการรับสมัครงาน คัดเลือกผู้สมัครงาน การสัมภาษณ์ และการดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสมัครงาน
  • เพื่อติดต่อสื่อสารกับผู้สมัครงานและบุคคลที่เกี่ยวข้อง

ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

  • เพื่อวัตถุประสงค์ในการรับสมัครงาน คัดเลือกผู้สมัครงาน การสัมภาษณ์ และการดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสมัครงาน

ฐานตามกฎหมายสำหรับการประมวลผล

  • ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
  • ความยินยอม
  • ภาระหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท
  • ความยินยอมโดยชัดแจ้ง

3.5  คู่ค้าทางธุรกิจและบุคคลที่เกี่ยวข้อง (เช่น ผู้ถือหุ้น กรรมการ หรือผู้ประสานงาน ในกรณีที่คู่ค้าทางธุรกิจเป็นนิติบุคคล)

วัตถุประสงค์

ฐานตามกฎหมายสำหรับการประมวลผล

ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

  • เพื่อยืนยันตัวตนหรือตรวจสอบบุคคลก่อนจะเข้าทำสัญญากับบริษัท
  • เพื่อการเข้าทำสัญญา 
  • เพื่อการติดต่อประสานงานทางธุรกิจ 
  • เพื่อออกหลักฐานการจ่ายเงินและนำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่าย
  • เพื่อดำเนินการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ 
  • เพื่อจัดเตรียมเอกสารหลักฐานทางภาษี และออกใบแจ้งหนี้
  • เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย รวมถึงก่อสิทธิเรียกร้องใดๆ ทางกฎหมาย (หากมี)
  • ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
  • การปฏิบัติตามสัญญาระหว่างท่านกับบริษัท
  • ความยินยอม
  • ภาระหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท

ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

  • เพื่อการเข้าทำสัญญา
  • ความยินยอมโดยชัดแจ้ง

วัตถุประสงค์

ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

  • เพื่อยืนยันตัวตนหรือตรวจสอบบุคคลก่อนจะเข้าทำสัญญากับบริษัท
  • เพื่อการเข้าทำสัญญา 
  • เพื่อการติดต่อประสานงานทางธุรกิจ 
  • เพื่อออกหลักฐานการจ่ายเงินและนำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่าย
  • เพื่อดำเนินการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ 
  • เพื่อจัดเตรียมเอกสารหลักฐานทางภาษี และออกใบแจ้งหนี้
  • เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย รวมถึงก่อสิทธิเรียกร้องใดๆ ทางกฎหมาย (หากมี)

ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

  • เพื่อการเข้าทำสัญญา

ฐานตามกฎหมายสำหรับการประมวลผล

  • ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
  • การปฏิบัติตามสัญญาระหว่างท่านกับบริษัท
  • ความยินยอม
  • ภาระหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท
  • ความยินยอมโดยชัดแจ้ง

3.6  ผู้ที่สนใจเข้ารับบริการทางการแพทย์

วัตถุประสงค์

ฐานตามกฎหมายสำหรับการประมวลผล

ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

  • เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการตลาด
  • เพื่อเสนอกิจกรรมทางการตลาดที่ท่านอาจสนใจและเป็นประโยชน์แก่ท่าน
  • เพื่อทำนัดหมายระหว่างท่านกับบุคลากรการแพทย์ของบริษัท และ/หรือ พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท
  • เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับแพลตฟอร์มที่เป็นประโยชน์แก่ท่าน
  • ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
  • การปฏิบัติตามสัญญาระหว่างท่านกับบริษัท
  • ความยินยอม
  • ภาระหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท

ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

  • เพื่อการวินิจฉัยโรค
  • ความยินยอมโดยชัดแจ้ง

วัตถุประสงค์

ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

  • เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการตลาด
  • เพื่อเสนอกิจกรรมทางการตลาดที่ท่านอาจสนใจและเป็นประโยชน์แก่ท่าน
  • เพื่อทำนัดหมายระหว่างท่านกับบุคลากรการแพทย์ของบริษัท และ/หรือ พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท
  • เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับแพลตฟอร์มที่เป็นประโยชน์แก่ท่าน

ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

  • เพื่อการวินิจฉัยโรค

ฐานตามกฎหมายสำหรับการประมวลผล

  • ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
  • การปฏิบัติตามสัญญาระหว่างท่านกับบริษัท
  • ความยินยอม
  • ภาระหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท
  • ความยินยอมโดยชัดแจ้ง

3.7  บล็อกเกอร์ อินฟลูเอนเซอร์และผู้เข้าร่วมในกิจกรรมทางการตลาดของบริษัท

วัตถุประสงค์

ฐานตามกฎหมายสำหรับการประมวลผล

ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

  • เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการตลาด
  • เพื่อเสนอกิจกรรมทางการตลาดที่ท่านอาจสนใจและเป็นประโยชน์แก่ท่าน
  • เพื่อทำนัดหมายระหว่างท่านกับบุคลากรการแพทย์ของบริษัท และ/หรือ พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท
  • เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับแพลตฟอร์มที่เป็นประโยชน์แก่ท่าน
  • เพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์และทำกิจกรรมทางการตลาดผ่านสื่อออนไลน์
  • เพื่อการวิจัย พัฒนา และปรับปรุงบริการของบริษัท
  • เพื่อยืนยันตัวตนหรือตรวจสอบบุคคลก่อนจะเข้าทำสัญญาจ้างทำโฆษณากับบริษัท
  • เพื่อการเข้าทำสัญญา 
  • เพื่อออกหลักฐานการจ่ายเงินและนำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่าย
  • เพื่อดำเนินการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ 
  • เพื่อจัดเตรียมเอกสารหลักฐานทางภาษี และออกใบแจ้งหนี้
  • เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย รวมถึงก่อสิทธิเรียกร้องใดๆ ทางกฎหมาย (หากมี)
  • ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
  • การปฏิบัติตามสัญญาระหว่างท่านกับบริษัท
  • ความยินยอม
  • ภาระหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท

ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

  • เพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์และทำกิจกรรมทางการตลาดผ่านสื่อออนไลน์
  • เพื่อการวิจัย พัฒนา และปรับปรุงบริการของบริษัท
  • เพื่อการเข้าทำสัญญา
  • ความยินยอมโดยชัดแจ้ง

วัตถุประสงค์

ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

  • เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการตลาด
  • เพื่อเสนอกิจกรรมทางการตลาดที่ท่านอาจสนใจและเป็นประโยชน์แก่ท่าน
  • เพื่อทำนัดหมายระหว่างท่านกับบุคลากรการแพทย์ของบริษัท และ/หรือ พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท
  • เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับแพลตฟอร์มที่เป็นประโยชน์แก่ท่าน
  • เพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์และทำกิจกรรมทางการตลาดผ่านสื่อออนไลน์
  • เพื่อการวิจัย พัฒนา และปรับปรุงบริการของบริษัท
  • เพื่อยืนยันตัวตนหรือตรวจสอบบุคคลก่อนจะเข้าทำสัญญาจ้างทำโฆษณากับบริษัท
  • เพื่อการเข้าทำสัญญา 
  • เพื่อออกหลักฐานการจ่ายเงินและนำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่าย
  • เพื่อดำเนินการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ 
  • เพื่อจัดเตรียมเอกสารหลักฐานทางภาษี และออกใบแจ้งหนี้
  • เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย รวมถึงก่อสิทธิเรียกร้องใดๆ ทางกฎหมาย (หากมี)

ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

  • เพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์และทำกิจกรรมทางการตลาดผ่านสื่อออนไลน์
  • เพื่อการวิจัย พัฒนา และปรับปรุงบริการของบริษัท
  • เพื่อการเข้าทำสัญญา

ฐานตามกฎหมายสำหรับการประมวลผล

  • ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
  • การปฏิบัติตามสัญญาระหว่างท่านกับบริษัท
  • ความยินยอม
  • ภาระหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท
  • ความยินยอมโดยชัดแจ้ง

4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกดังต่อไปนี้ เพื่อประโยชน์ในการให้บริการแก่ท่านและดำเนินตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ข้างต้น

  1. บริษัทในเครือหรือบริษัทในกลุ่ม ทั้งนี้ ให้หมายความรวมถึงผู้บริหาร กรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง และ/หรือ บุคลากรภายในของบริษัทดังกล่าวเท่าที่เกี่ยวข้องและจำเป็นเพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน 
  2. พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท และคู่ค้าที่ให้บริการ เช่น พันธมิตรที่เข้าร่วมรายการโปรแกรมสะสมคะแนนและสิทธิพิเศษ ห้องปฏิบัติการ (Laboratory) บริษัทประกันชีวิต และบริษัทอื่นๆที่เกี่ยวข้องในการให้บริการของคลินิก
  3. หน่วยงานราชการ เช่น สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานประกันสังคม กรมสรรพากร กรมบังคับคดี ศาล 
  4. ผู้ให้บริการ ตัวแทน และผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทมอบหมายหรือว่าจ้างให้ทำหน้าที่บริหารจัดการ/ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัท เช่น ผู้ให้บริการคลาวด์ ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
  5. ธนาคาร บริษัทบัตรเครดิตและผู้ให้บริการชำระเงิน ผู้บริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 
  6. สถานพยาบาลปลายทาง หากมีการส่งต่อผู้ป่วยเพื่อเข้ารับการดูแลรักษา 
  7. ที่ปรึกษาด้านต่าง ๆ ของบริษัทฯ เช่น ทนายความ และผู้ตรวจสอบบัญชี

นอกจากนี้ บริษัทอาจขอความยินยอมเพิ่มเติมจากท่านเป็นครั้งคราวเพื่อให้บริษัทสามารถเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบางประเภท (เช่น ชื่อบัญชีผู้ใช้งานบนสื่อโซเชียลมีเดีย และความคิดเห็นต่อแพลตฟอร์มของบริษัท) บนสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ของบริษัทเพื่อประโยชน์ด้านการประชาสัมพันธ์แพลตฟอร์ม ซึ่งท่านมีสิทธิไม่ให้ความยินยอมแก่บริษัทได้

5. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ

เนื่องจากบริษัทใช้บริการคลาวด์ของผู้ให้บริการในต่างประเทศได้แก่ Google Cloud Platform (GCP) เพื่อประโยชน์ในการให้บริการแก่ท่าน ดังนั้น บริษัทจึงจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังประเทศของผู้ให้บริการนั้น 

เพื่อการจัดเก็บและประมวลผลซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินธุรกิจตามปกติของบริษัท นอกจากนี้ บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังสถานพยาบาลปลายทาง ห้องปฏิบัติการและวินิจฉัยทางการแพทย์ และผู้ผลิตเครื่องมือทางการแพทย์ในต่างประเทศ (เช่น สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี) รวมถึงผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในต่างประเทศ ที่บริษัทมอบหมายหรือว่าจ้างให้ทำหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัท (เช่น Google Analytics Google Ads และ Facebook Ads) ทั้งนี้ บริษัทจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังประเทศปลายทางที่มีความน่าเชื่อถือ และมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เทียบเท่าตามที่กฎหมายในประเทศได้กำหนดเอาไว้ 

6. การจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล 

บริษัทได้ใช้มาตรการรักษาความปลอดภัย ทั้งมาตรการในการบริหารจัดการ (Organizational Measure) และมาตรการเชิงเทคนิค (Technical Measure) ที่เหมาะสมเพื่อจัดเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ยกตัวอย่างเช่น การใช้มาตรการเข้ารหัสและการจัดเก็บข้อมูลไว้ในตู้เอกสารที่ปิดล็อกเพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต การใช้ระบบล็อคประตูดิจิตัลเพื่อจำกัดบุคคลผู้มีสิทธิเข้าถึงข้อมูล การจัดเก็บข้อมูลไว้ในระบบกูเกิลคลาวด์ (Google Cloud) และ ไอเน็ท (INET) เพื่อป้องกันข้อมูลสูญหาย และการใช้ไฟร์วอลล์ (Firewall) นอกจากนี้ บุคลากรและผู้ให้บริการภายนอกของบริษัทมีหน้าที่ต้องรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล และต้องปฏิบัติตามมาตรฐานและนโยบายการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่เคร่งครัดเมื่อมีการใช้ ส่ง โอน หรือประมวลผลใดๆ กับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน 

ในกรณีที่บริษัทหรือท่านได้กำหนดรหัสผ่านเพื่อการเข้าใช้บริการแพลตฟอร์มของบริษัท ท่านจะต้องรับผิดชอบในการรักษารหัสผ่านดังกล่าวไว้เป็นความลับเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยมิชอบ

7. ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะจัดเก็บบรรดาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เท่าที่จำเป็น ตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดเกี่ยวกับการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้โดยเฉพาะ อย่างไรก็ดี ในกรณีที่กฎหมายไม่ได้กำหนดระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้โดยเฉพาะ บริษัทจะกำหนดระยะเวลาในการจัดเก็บตามความจำเป็นที่เหมาะสมในการปฏิบัติงานของบริษัท ดังต่อไปนี้

  1. กรณีผู้ป่วยและบุคคลที่เกี่ยวข้อง (เช่น ญาติ) ตลอดระยะเวลาที่ท่านยังคงเข้ารับบริการทางการแพทย์ของบริษัท และบริษัทจะยังคงจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างน้อยอีก 5 ปี นับจากวันที่เข้ารับการรักษาวันสุดท้าย หากไม่ได้รับการติดต่อจากท่านอีก
  2. กรณีผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะฉุกเฉินหรือหมดสติและบุคคลที่เกี่ยวข้อง (เช่น ผู้นำส่ง) ตลอดระยะเวลาที่ท่านยังคงเข้ารับบริการทางการแพทย์ของบริษัท และบริษัทจะยังคงจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอีก อย่างน้อย 5 ปี นับจากวันที่เข้ารับการรักษาวันสุดท้าย หากไม่ได้รับการติดต่อจากท่านอีก
  3. กรณีบุคลากรของบริษัทและบุคคลที่เกี่ยวข้อง (เช่น ผู้ค้ำประกัน) ตลอดระยะที่ท่านยังคงเป็นบุคลากรของบริษัท 
  4. กรณีผู้สมัครงานและบุคคลที่เกี่ยวข้อง (เช่น บุคคลอ้างอิง) ตลอดระยะเวลาที่ท่านยังคงอยู่ในกระบวนการสรรหาและคัดเลือกผู้สมัครงาน การสัมภาษณ์ และการดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสมัครงาน และบริษัทจะยังคงจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอีกอย่างน้อย 2 ปี นับจากวันที่สิ้นสุดการรับสมัครงาน
  5. กรณีคู่ค้าทางธุรกิจและบุคคลที่เกี่ยวข้อง ตลอดระยะที่ท่านยังคงเป็นคู่ค้าทางธุรกิจของบริษัท และบริษัทจะยังคงจัดเก็บข้อมูลไว้นานเท่าที่จำเป็น ในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูล นับจากวันที่สิ้นสุดสัญญา
  6. กรณีผู้ที่สนใจเข้ารับบริการทางการแพทย์ ตลอดระยะเวลาที่ท่านยังคงเป็นผู้ใช้แพลตฟอร์มของบริษัท และ/หรือ อย่างน้อย 5 ปีนับจากวันที่ท่านหยุดใช้แพลตฟอร์มของบริษัทโดยสิ้นเชิง
  7. กรณีบล็อกเกอร์ อินฟลูเอนเซอร์ และผู้เข้าร่วมในกิจกรรมทางการตลาดของบริษัท ข้อมูลจะเก็บไว้นานเท่าที่จำเป็นในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูล

ทั้งนี้ บริษัทจะลบ ทำลาย หรือทำให้เป็นข้อมูลข้างต้นกลายเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุถึงตัวตนของท่านได้เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว 

 

8. สิทธิของท่าน

ท่านสามารถขอใช้สิทธิอันเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ได้โดยการติดต่อบริษัทผ่านช่องทางที่ชี้แจงไว้ในข้อ 13 และหากท่านมีอายุไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์ หรือถูกจำกัดความสามารถในการทำนิติกรรมตามกฎหมาย ท่านสามารถขอใช้สิทธิโดยให้บิดาและมารดา ผู้ใช้อำนาจปกครอง หรือมีผู้อำนาจกระทำการแทนเป็นผู้แจ้งความประสงค์ ซึ่งบริษัทจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดที่จะดำเนินการหรือชี้แจงภายใน 30 (สามสิบ) วัน หรือภายในระยะเวลาที่เหมาะสม โดยท่านมีสิทธิดังต่อไปนี้

  1. สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลและขอรับสำเนาข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงและรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเก็บรวบรวม หรือขอให้บริษัทเปิดเผยแหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้รับมาโดยปราศจากความยินยอมจากท่านได้
  2. สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้องสมบูรณ์ เป็นปัจจุบัน และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้
  3. สิทธิในการขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลนั้นเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้  
  4. สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ในกรณีที่บริษัทอยู่ในระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล/ขอคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใดที่ท่านขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลแทนการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป
  5. สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
  6. สิทธิในการโอนย้ายข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอก เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้สิทธิของท่าน เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค ทั้งนี้ การใช้สิทธิจะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด
  7. สิทธิในการขอถอนความยินยอม : หากท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ผ่านช่องทางการติดต่อของบริษัท เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธิโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่ 
    ทั้งนี้ การถอนความยินยอมดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้ดำเนินการไปแล้วบนฐานความยินยอมนั้น และในบางกรณีการถอนความยินยอมอาจส่งผลกระทบต่อท่านได้ เช่น ไม่ได้รับการอำนวยความสะดวกทางด้านสวัสดิการต่างๆ การติดต่อประสานงานทางธุรกิจ การแจ้งสิทธิประโยชน์ โปรโมชั่น ข่าวสารหรือข้อเสนอใหม่ๆ ไม่ได้รับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ดียิ่งขึ้นและสอดคล้องกับความต้องการของท่าน เป็นต้น 
  8. สิทธิในการร้องเรียน : ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมาย (เช่น คณะกรรมการ/สำนักงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล) หากมีกรณีอันเป็นเหตุทำให้ท่านเชื่อว่าบริษัททำการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

การใช้สิทธิของท่านอาจถูกจำกัดหรือถูกปฏิเสธได้ด้วยเหตุผลบางประการ เช่น การใช้สิทธิของท่านอาจขัดต่อกฎหมาย/คำสั่งของหน่วยงานที่มีอำนาจ เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือการใช้สิทธินั้นอาจกระทบต่อเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น ทั้งนี้ บริษัทจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบด้วย

 

9นโยบายคุกกี้

ท่านสามารถขอใช้สิทธิอันเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ได้โดยการติดต่อบริษัทผ่านช่องทางที่ชี้แจงไบริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้คุกกี้รวมถึงเทคโนโลยีอื่นในลักษณะเดียวกันเมื่อท่านใช้บริการแพลตฟอร์มของบริษัท เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ (1) เพื่อวิเคราะห์และประมวลผลการใช้งานแพลตฟอร์มของท่าน (2) เพื่อเพิ่มประสบการณ์และความพึงพอใจของท่าน (3) เพื่อวัตถุประสงค์ในการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ของบริษัท และ (4) เพื่อปรับแต่งแคมเปญทางการตลาดให้เหมาะสมกับความสนใจของท่าน โดยท่านสามารถตั้งค่าหรือลบการใช้งานคุกกี้ได้ด้วยตนเองจากการตั้งค่าแอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือหรือเว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) ของท่าน ซึ่งจะทำให้ท่านสามารถปฏิเสธการใช้งานคุกกี้ทั้งหมดหรือบางส่วนได้ อย่างไรก็ตาม ท่านอาจไม่สามารถเข้าใช้แพลตฟอร์มของบริษัทได้บางส่วน

บริษัทขอแจ้งให้ท่านทราบว่าบุคคลที่สาม (เช่น  เครือข่ายโฆษณาและผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ให้บริการวิเคราะห์การเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ เป็นต้น) อาจใช้คุกกี้ดังกล่าวด้วยเช่นกัน ซึ่งบริษัทไม่มีอำนาจควบคุมการดำเนินงานดังกล่าว การใช้งานคุกกี้มักจะทำให้แพลตฟอร์มของบริษัทและโฆษณาที่แสดงบนแพลตฟอร์มของบริษัทมีความเกี่ยวข้องกับความสนใจของท่านมากขึ้น และทำให้สามารถพัฒนาการทำงานของแพลตฟอร์มของบริษัทได้

10. สื่อทางการตลาด

เมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านไม่ว่าผ่านแพลตฟอร์มหรือด้วยวาจา บริษัทอาจนำเสนอข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการตลาด และข้อเสนอที่เกี่ยวกับการส่งเสริมการขายและกิจกรรมทางการตลาดของบริษัท และ/หรือ พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทที่ท่านอาจสนใจและเป็นประโยชน์แก่ท่าน (“สื่อทางการตลาด”)  ผ่านการแจ้งเตือนบนแพลตฟอร์ม โทรศัพท์ และ/หรือ อีเมล ทั้งนี้ ท่านสามารถยกเลิกการรับข้อมูลสื่อทางการตลาดนั้นได้ทุกเมื่อผ่านแพลตฟอร์ม ผ่านช่องทางการติดต่อของบริษัท และ/หรือ เมื่อได้รับการติดต่อจากบริษัท 

บริษัทขอแจ้งให้ท่านทราบว่าหากท่านเลือกที่จะไม่รับข้อมูลดังกล่าว บริษัทจะยังคงสามารถส่งข้อความที่ไม่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการขายหรือข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานแพลตฟอร์มเพื่อประโยชน์ของท่านได้ต่อไป


11. การเปลี่ยนแปลง

บริษัทขอสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เป็นครั้งคราวเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติของบริษัท และ/หรือ การปฏิบัติตามข้อบังคับทางกฎหมาย โดยบริษัทจะแจ้งให้ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวผ่านช่องทางที่เหมาะสม ทั้งนี้ หากการเปลี่ยนแปลงนั้นกระทบต่อสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในสาระสำคัญ บริษัทอาจขอความยินยอมก่อนดำเนินการเปลี่ยนแปลงใดๆ ตามที่กฎหมายกำหนด

ทั้งนี้ บริษัทแนะนำให้ท่านตรวจสอบเป็นระยะเพื่อให้ทราบถึงการปรับปรุงหรือการเปลี่ยนแปลงคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวนี้

12. ติดต่อบริษัท

หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับนโยบายฉบับนี้ หรือประสงค์ขอใช้สิทธิของท่าน ตลอดจนร้องเรียนใดๆ อันเกี่ยวกับการดำเนินการของบริษัทบนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถติดต่อบริษัทได้ผ่านช่องทางดังต่อไปนี้

ที่อยู่: บริษัท บี-เฟิร์ส เมดิคอล จำกัด เลขที่ 1 ซอยกรุงเทพกรีฑา 4 (บี.กริม) แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240
โทร: +66 2038 5595
แฟกซ์:      +66 2038 5542
อีเมล: [email protected]
Line ID: @primocare