/ บทความ / อาการทางจิต 3 ประเภท ที่อาจเกิดขึ้นร่วมกับภาวะซึมเศร้า
อาการทางจิต 3 ประเภท ที่อาจเกิดขึ้นร่วมกับภาวะซึมเศร้า
ภาวะโรคซึมเศร้าจะส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การเรียน การทานอาหาร หรือ การนอนหลับ ทั้งนี้หากผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษา ดูแลอย่างใกล้ชิดจากนักจิตวิทยา หรือคนรอบข้าง อาจก่อให้เกิดอาการทางจิตอื่นๆ ร่วมขึ้นด้วยที่จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของผู้ป่วยในระยะยาว ดังนั้นการดูแลสุขภาพจิตให้แข็งแรงจึงถือเป็นเรื่องสำคัญ
ภาวะซึมเศร้า (Major Depressive Disorder) คืออะไร?
อาการเศร้า เสียใจ เป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวัน แต่ในส่วนของภาวะซึมเศร้านั้น เป็นอาการที่จะรู้สึกเศร้าทั้งวัน โดยส่วนมากจะเกิดขึ้นในช่วงเช้า และนำมาซึ่งอาการเบื่อหน่าย หมดความสนใจในการทำกิจกรรมต่างๆ รวมถึงความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง โดยอาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นทุกวันติดต่อกันเป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์
อาการของภาวะซึมเศร้า
- เหนื่อยล้า หรือหมดพลังเกือบทุกวัน
- รู้สึกว่าตัวเองไม่มีคุณค่า หรือรู้สึกผิดตลอดเวลา
- สมาธิสั้น ไม่สามารถจดจ่อกับงานได้
- นอนไม่หลับ หรือรู้สึกง่วงนอนตลอดทั้งวัน
- ไม่มีความสุข หรือรู้สึกหมดความสนใจในกิจกรรมที่เคยชอบ
- หมดแรง เฉื่อยชา
- น้ำหนักลดลง หรือเพิ่มขึ้นอย่างมากในระยะเวลาอันสั้น
- มีความคิดอยากตาย หรืออยากฆ่าตัวตาย
คำถามที่ใช้ในการคัดกรองด้วยตัวเอง
โดยคุณสามารถประเมินตัวเอง หรือคนในครอบครัวได้คร่าวๆ โดยใช้คำถามสองข้อ (ถ้ามีอย่างน้อย 1 ข้อ ถือว่าคุณมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคซึมเศร้า)
- ใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงวันนี้คุณรู้สึกหดหู่ เศร้า หรือท้อแท้สิ้นหวังหรือไม่
- ใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงวันนี้คุณรู้สึกเบื่อ ทำอะไรก็ไม่เพลิดเพลินหรือไม่
ภาวะซึมเศร้าและอาการทางจิตอื่นๆ
ภาวะซึมเศร้าอาจเกิดร่วมกันกับอาการทางจิตอื่นๆ เช่น โรควิตกกังวล โรคแพนิค โรคกลัวสังคม เป็นต้น โดยโรคต่างๆเหล่านี้สามารถรักษาให้หายได้ ด้วยคำแนะนำที่ถูกต้องจากแพทย์ หรือนักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญ ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติได้
โรควิตกกังวล (Anxiety Disorders)
อาการวิตกกังวล เป็นอาการที่เกิดขึ้นจากความเครียด นำมาซึ่งอาการหัวใจเต้นเร็ว กล้ามเนื้อรัดเกร็ง โดยโรควิตกกังวลมักจะเกิดขึ้นกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชายถึง 2 เท่า นอกจากนี้ผลงานวิจัยยังบ่งชี้ว่า ผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าจะเคยประสบกับโรควิตกกังวลอยู่บ่อยคร้้ง โดยโรควิตกกังวลนั้นผู้ป่วยจะไม่สามารถควบคุมอาการวิตกกังวล และความเครียดได้ พร้อมกับมีอาการต่างๆ ดังนี้
- ไม่สามารถจดจ่อกับงานได้
- เหนื่อยล้า หมดแรง
- หงุดหงิดง่าย
- กล้ามเนื้อเกร็ง
- นอนหลับยาก หรือง่ายผิดปกติ
อาการแพนิคเป็นโรควิตกกังวลประเภทหนึ่งที่มักจะเกิดขึ้นร่วมกับภาวะซึมเศร้า โดยผู้ที่เป็นโรคแพนิคนั้น จะมีอาการตกใจ หรือกลัวสุดขีดคล้ายภาวะหัวใจวาย หรือเป็นลม ซึ่งอาการเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นเมื่อผู้ป่วยมีความกังวลอย่างรุนแรงเกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างเฉียบพลัน นอกจากนี้ผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคแพนิคจะมีอาการดังนี้ร่วมด้วยอย่างน้อย 4 อย่าง อาทิ
- เจ็บหน้าอก
- หายใจลำบาก และถี่
- ปวดหัว หรือมึนงง
- เหงื่อออก
- หัวใจเต้นเร็ว และแรง
- ตัวสั่น หรือเกิดอาการชาตามร่างกาย
- ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
โรคกลัวสังคม (Phobic Disorder)
- พูดจาติดขัด
- ปากแห้ง
- เหงื่อออกมาก
- คลื่นไส้
- หัวใจเต้นแรง
- ตัวสั่น
ลดอาการวิตกกังวลในชีวิตประจำวันได้อย่างไร?
- ทำกิจกรรมที่ผ่อนคลาย จะช่วยให้อาการวิตกกังวลลดลง และสุขภาพจิตดีขึ้นอีกด้วย เช่น การออกกำลังกาย หรือการเล่นโยคะเป็นประจำ จะช่วยฝึกจังหวะการหายใจ ทำให้สงบมากยิ่งขึ้น
- ทานอาหารที่มีประโยชน์ นอกจากจะช่วยให้สุขภาพกายแข็งแรงแล้ว ยังช่วยให้สุขภาพจิตใจแข็งแรงด้วย หลีกเลี่ยงคาเฟอีน รวมถึงแอลกฮอล์ และสารเสพติด จะช่วยให้ร่างกายทำงานดียิ่งขึ้น ส่งผลให้จิตใจเบิกบาน
- สังสรรค์กับเพื่อน การพบปะเพื่อนจะช่วยบรรเทาอาการเหงา หรือเบื่อหน่าย สามารถชวนเพื่อนทำกิจกรรมใหม่ๆด้วยกัน หลีกเลี่ยงการอยู่คนเดียวเมื่อรู้สึกเครียด หรือกังวล จะช่วยบรรเทาอาการวิตกกังวลได้
- อย่าจมอยู่กับความเครียด หากเริ่มรู้สึกเครียด หรือกังวลเรื่องงาน ให้ลองพักจากงานและไปทำกิจกรรมอื่นเพื่อคลายเครียด เช่น การพูดคุยกับเพื่อน ออกกำลังกาย หรือนั่งสมาธิ เป็นต้น
Reference
- The Link Between Depression and Other Mental Illnesses (https://www.webmd.com/depression/guide/link-to-other-mental-illnesses)
- Major Depression (Clinical Depression)(https://www.webmd.com/depression/guide/major-depression)
- Generalized Anxiety Disorder (https://www.webmd.com/anxiety-panic/guide/generalized-anxiety-disorder)