/ บทความ / ปวดกล้ามเนื้อเเบบไหนถึงต้องมาหานักกายภาพบำบัด?
ปวดกล้ามเนื้อเเบบไหนถึงต้องมาหานักกายภาพบำบัด?
โดยส่วนมาก อาการปวดหลังจากกล้ามเนื้อทั่วไปมักหายได้ในเวลาไม่ถึงสัปดาห์ แต่หากว่าผู้ป่วยมีอาการปวดต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานกว่า 2 สัปดาห์เป็นต้นไป หรือมีอาการแทรกซ้อนอื่นๆ ร่วมด้วย ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อหาสาเหตุและรักษาก่อนจะเกิดอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง
อาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง (Myofascial Pain Syndrome)
โดยส่วนใหญ่อาการปวดกล้ามเนื้อนั้นมักจะหายเองในเวลาไม่นาน แต่ผู้ป่วยที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรังจะมีอาการปวดที่แย่ลง นอกจากนี้อาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรังนั้นยังมาพร้อมอาการอื่นๆ ได้แก่ ไมเกรน อ่อนล้า ซึมเศร้า กล้ามเนื้อตึง เป็นต้น
อาการปวดเรื้อรังเกิดจากการใช้งานมัดกล้ามเนื้อมัดที่เกิดอาการผิดท่าทางเป็นเวลานานอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อใช้กล้ามเนื้อติดต่อกันเป็นเวลานาน กล้ามเนื้อจะเกร็งตัวสะสมจนเกิดเป็นปมกล้ามเนื้ออักเสบ โดยอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรังจะมีลักษณะดังนี้
- ปวดร้าวลึกๆ (Deep dull aching) ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย อาจปวดตลอดเวลาหรือปวดเฉพาะเวลาทำงาน เช่น ปวดบริเวณสะบัก จะปวดคล้ายสะบักจม
- ปวดร้าว (Referred pain) อาการปวดของกล้ามเนื้อแต่ละตำแหน่งจะมีลักษณะเฉพาะ เช่น ปวดบริเวณก้านคอ ขมับ กรามล่าง และครอบคลุมถึงบริเวณศีรษะ เป็นต้น
- มีอาการชาร่วมด้วย เกิดอาการชาตามส่วนต่างๆของร่างกายร่วมกับอาการปวด เช่น ชาที่ผิวหนัง ชาที่แขน หรือขา
- มีอาการปวดต่อเนื่อง มานานกว่า 3 เดือนขึ้นไป
- ศาสตร์การนวดผ่อนคลายหลังออกกำลังกาย (Sport massage)
- การรักษาด้วยคลื่นอัลตราซาวด์ (Ultrasound)
- การยืดกล้ามเนื้อโดยใช้ยางยืดเเรงต้าน (Theraband Exercise)
- การบำบัดด้วยพลังงานคลื่นกระแทก (Shockwave)
การทำกายภาพบำบัดจะเน้นการบำบัดฟื้นฟูอาการเจ็บป่วยต่างๆ ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ร่วมกับการออกกำลังกาย หรือใช้เครื่องมือทางกายภาพบำบัดต่างๆ โดยการรักษานอกเหนือจากการทำกายภาพบำบัดแล้ว ยังรวมถึง
- การประเมินโครงสร้างร่างกาย เพื่อหาสาเหตุการเจ็บป่วย ปวดเมื่อย กล้ามเนื้ออักเสบ เจ็บปวดเรื้อรังและการปรับร่างกายให้เกิดความสมดุล
- การสร้างความรู้ความเข้าใจ ในการปรับเปลี่ยนท่าทางการทำงานตามความเหมาะสมให้กับแต่ละบุคคล
- การให้ความรู้และส่งเสริมการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องและถูกวิธี เพื่อให้กล้ามเนื้อมีความแข็งแรงและยืดหยุ่น ป้องกันภาวะบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ
- อาการปวดที่ไม่ปกติ ขาอ่อนแรง ขาชา เคลื่อนไหวลำบาก หรือเกร็งกระตุกร่วมด้วย
- อาการปวดหลังที่เป็นเรื้อรัง ต่อเนื่องนานเกิน 3 เดือน
- อาการปวดแบบเฉียบพลัน จนไม่สามารถเคลื่อนไหว หรือไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้เหมือนเดิม
- อาการปวดจากการได้รับอุบัติเหตุ หกล้ม หรืออาการบาดเจ็บที่เกิดจากการเล่นกีฬา
- อาการปวดที่มีอาการร่วมอื่นๆ เช่น มีไข้ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลดลงผิดปกติโดยไม่ทราบสาเหตุ