โรคไข้ฝีดาษลิง เป็นโรคที่ใกล้เคียงกับโรคอีสุกอีใส หรือไข้ทรพิษ แต่มีความรุนแรงน้อยกว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสนี้ส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรง อาการคล้ายกับอาการของโรคอีสุกอีใส และสามารถหายเองได้ภายในภายในไม่กี่สัปดาห์ อย่างไรก็ตามโรคฝีดาษลิง อาจมีอาการรุนแรงมากขึ้นได้ในบางกรณี และอาจทำให้เสียชีวิตได้
โรคไข้ฝีดาษลิง (Monkeypox)
โรคไข้ฝีดาษลิง หรือ Monkeypox เกิดจาก ไวรัส Othopox Virus เป็นโรคที่ใกล้เคียงกับโรคอีสุกอีใส หรือไข้ทรพิษ แต่มีความรุนแรงน้อยกว่า ผู้ป่วยจะมีไข้ ร่วมกับมีตุ่มผื่นตุ่มหนองทั่วตัว และต่อมน้ำเหลืองโต โดยสายพันธุ์หลักของโรคฝีดาษลิง แบ่งออกเป็น 2 สายพันธุ์หลัก คือ
- สายพันธุ์ Congo Basin พบอัตราการเสียชีวิต 10%
- สายพันธุ์ West African พบอัตราการเสียชีวิต 1%
อาการของโรคไข้ฝีดาษลิง
โรคฝีดาษลิง จะมีอาการที่สังเกตได้ หลังจากที่สัมผัสเชื้อไปแล้วประมาณ 12 วัน ผู้ป่วยอาจมีอาการแสดงของโรคฝีดาษวานรมีตั้งแต่ 7-21 วัน โดยอาการจะแบ่งออกเป็น 2 ระยะคือ ระยะก่อนออกผื่น (Invasion Phase) และ ระยะออกผื่น (Skin Eruption Phase)
โดยทั่วไปแล้ว อาการป่วยจะกินเวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์ ส่วนใหญ่สามารถหายจากโรคเองได้ แต่ในกรณีผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ มีโรคประจำตัว อาจมีภาวะแทรกซ้อน หรือเสียชีวิตได้
ระยะก่อนออกผื่น (Invasion Phase)
- เริ่มด้วยมีไข้ ปวดหัว ปวดตัว ปวดหลัง อ่อนเพลีย และต่อมน้ำเหลืองโต
- มีอาการต่อมน้ำเหลืองโต
- อาจมีอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องเสีย อาเจียน
- มีอาการทางระบบหายใจ เช่น เจ็บคอ ไอ เหนื่อย
ระยะออกผื่น (Skin Eruption Phase)
- หลังจากมีไข้ประมาณ 1-3 วัน จะเริ่มมีอาการแสดงทางผิวหนัง มีลักษณะตุ่มผื่นขึ้น โดยเป็นตุ่มที่มีรูปแบบการเปลี่ยนแปลงตามลำดับ
- เริ่มจากรอยแดงจุดๆ เป็นตุ่มนูนแดง ตุ่มน้ำใส ตุ่มน้ำหนอง
- ในระยะออกผื่น ผื่นจะกลายเป็นสะเก็ดคลุม แห้งและหลุดออกมา โดยใช้เวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์
ปัจจุบันยังไม่มีการรักษาโรคฝีดาษลิงแบบจำเพาะ แต่จะเป็นการรักษาเพื่อบรรเทาอาการ และควบคุมการเกิดภาวะแทรกซ้อน อัตราการเสียชีวิต โดยทาง CDC ระบุว่า โรคฝีดาษลิงนั้นนอกจากจะแพร่ระบาดผ่านการสัมผัสโดยตรงกับแผลติดเชื้อ สะเก็ดแผล หรือของเหลวจากร่างกายแล้ว โรคนี้ยังสามารถแพร่ระบาดผ่านสารคัดหลั่งทางเดินหายใจในระหว่างที่มีการสัมผัสกันเป็นเวลานาน โดยสามารถปรับพฤติกรรมในการป้องกันตัวจากโรคฝีดาษลิงได้ ดังนี้
- หมั่นล้างมือด้วยสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์บ่อยๆ โดยเฉพาะหลังสัมผัสสัตว์ หรือสิ่งของสาธารณะ
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ป่า ที่มาจากพื้นที่เสี่ยง หรือสัตว์ป่าป่วย
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ที่มีประวัติ มาจากพื้นที่เสี่ยงและมีอาการ
- หลีกเลี่ยงการเลี้ยงหรือนำเข้าสัตว์ป่า จากต่างประเทศที่ไม่ทราบประเทศต้นทาง
- หลีกเลี่ยงสัมผัสเลือด สารคัดหลั่ง หรือตุ่มหนองของสัตว์
- รับประทานเนื้อสัตว์ที่ปรุงสุก
- เฝ้าระวังอาการ 21 วันหลังกลับจากประเทศเขตติดโรค
- การฉีดวัคซีนป้องกันไข้ทรพิษ สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้
การติดต่อของโรคไข้ฝีดาษลิง
โรคฝีดาษลิงสามารถติดต่อจากคนสู่คนได้จากการสัมผัสใกล้ชิด โดยผ่านการสัมผัสทางผิวหนังกับผู้ติดเชื้อโดยตรง หรือสัมผัสวัตถุที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัส ทั้งนี้ในสัตว์ตระกูลลิง หลังได้รับเชื้อมักมีผื่นขึ้นอยู่นานประมาณ 4 – 6 สัปดาห์ และจะพบตุ่มหนองขึ้นตามร่างกาย โดยบริเวณที่พบบ่อยที่สุด คือ ใบหน้า แขนขา ฝ่ามือ ฝ่าเท้า และหาง เชื้อนี้มักไม่ทำให้สัตว์ตายแต่อาจพบการตายได้บ้างในลิงแรกเกิด ลิงบางตัวอาจจะติดเชื้อโดยไม่แสดงอาการป่วยเลย
ทั้งนี้หากเราพบผู้ติดเชื้อ หรือผู้ที่สงสัยติดเชื้อ จะต้องแยกผู้เสี่ยงติดเชื้อออกจากผู้อื่น เป็นเวลา 21 – 28 วัน จนกว่าผื่นจะตกสะเก็ด ในกรณีที่เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกันกับผู้เสี่ยงติดเชื้อให้สังเกตอาการของตนเอง และแยกตัวเองออกจากผู้อื่นเช่นเดียวกัน เนื่องจากคนสามารถติดโรคนี้จากการสัมผัสโดยตรงกับเลือด สิ่งคัดหลั่ง หรือตุ่มหนองของสัตว์ที่ติดเชื้อ หรือจากการถูกสัตว์ที่มีเชื้อกัด การแพร่เชื้อจากคนสู่คนอาจเกิดขึ้นได้แต่มีโอกาสน้อยมาก ผู้ป่วยจะแสดงอาการของโรคหลังจากติดเชื้อแล้วประมาณ 12 วัน
การรักษาโรคฝีดาษลิง
ปัจจุบันยังไม่มีการรักษาโรคฝีดาษลิงแบบจำเพาะ แต่จะเป็นการรักษาเพื่อบรรเทาอาการ และควบคุมการเกิดภาวะแทรกซ้อน สำหรับผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่เป็นโรคฝีดาษลิง หรือโรคฝีดาษวานร ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค หรือ CDC แนะนำให้ฉีดวัคซีนภายใน 4 วันหลังสัมผัสเพื่อป้องกันการติดโรค และฉีดวัคซีนภายใน 14 วันเพื่อลดความรุนแรงของโรค ทั้งนี้การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้ทรพิษ สามารถป้องกันโรคฝีดาษลิงได้ 85%
การฉีดวัคซีนป้องกันฝีดาษคนหรือไข้ทรพิษสามารถป้องกันโรคฝีดาษลิงได้ด้วย ดังนั้นผู้สูงวัยที่เคยฉีดวัคซีนไข้ทรพิษมาก่อนจะยังคงมีภูมิคุ้มกันป้องกันฝีดาษลิงได้ แต่อย่างไรก็ตามผู้ที่เกิดหลังปี พ.ศ. 2523 จะไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนฝีดาษหรือไข้ทรพิษมาก่อน ขณะนี้ (เดือนกรกฎาคม 2565) โรคฝีดาษลิงยังไม่ถือเป็นการระบาดและยังไม่มีวัคซีนอยู่ในประเทศไทย
หากท่านต้องการที่จะนัดหมายเพื่อปรึกษาพูดคุยกับแพทย์ สามารถเข้ามารับคำแนะนำได้ที่ พรีโมแคร์ เมดิคอล คลินิก ที่พร้อมดูแลรักษาสุขภาพร่างกายของท่านอย่างครบถ้วน ส่งเสริม ป้องกันเเละรักษา สามารถสอบถามหรือนัดหมายล่วงหน้า ที่นี่