การกายภาพบำบัดและการนวดแผนไทย ต่างเป็นศาสตร์แห่งการฟื้นฟูร่างกายที่ต้องใช้ทักษะเฉพาะ โดยการทำกายภาพบำบัดนั้นจัดเป็นการรักษาทางการแพทย์ ส่วนการนวดบำบัดทั่วไปจะอยู่ในหมวดแพทย์ทางเลือก ซึ่งสำหรับคนทั่วไปก็ยังเป็นที่สับสนกันมากว่าการนวดแผนไทยและการทำกายภาพบำบัดนั้นเหมือนหรือต่างกันอย่างไร บทความนี้เราจะมาดูกันชัดๆ ว่าอาการแบบไหนควรรักษาอย่างไรถึงจะดีที่สุด
การนวดบำบัดทั่วไปและการนวดแผนไทย มีจุดประสงค์ในการช่วยคลายกล้ามเนื้อ โดยอาจใช้เทคนิคการนวดคลึง การกดเน้นตามจุด และการเหยียดยืดกล้ามเนื้อ ซึ่งจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด บรรเทาอาการปวดเมื่อยและลดการตึงตัวของกล้ามเนื้อ ส่งผลให้รู้สึกดีขึ้นในขณะที่เคลื่อนไหวร่างกาย นอกจากนี้ยังส่งผลดีต่อสุขภาพจิตในด้านการลดความเครียดและความวิตกกังวลได้อีกด้วย
ในกรณีต่อไปนี้ การนวดบำบัดทั่วไปถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์
การทำกายภาพบำบัด มีจุดประสงค์เพื่อทำการรักษาอาการบาดเจ็บ รวมถึงความเจ็บป่วยรุนแรงหรือเรื้อรัง โดยเป็นหน้าที่ของแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูและนักกายภาพบำบัดในการตรวจร่างกาย วินิจฉัย และออกแบบการรักษาตามอาการและสาเหตุการเจ็บป่วย
สำหรับกรณีต่อไปนี้ การรักษาด้วยกายภาพบำบัดจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมมากกว่าการนวดบำบัดทั่วไป
หลายครั้งที่เรามักละเลยการพบแพทย์หรือนักกายภาพบำบัดเพราะคิดว่าอาการจะดีขึ้นเองในไม่ช้า แต่กลายเป็นว่าอาการกลับยิ่งเรื้อรังและรุนแรงมากขึ้น ดังนั้นตามคำแนะนำที่ถูกต้อง เราควรรับการตรวจรักษาทันทีที่ได้รับบาดเจ็บ หรือมีอาการปวดตามร่างกายที่เป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
ในการรักษาทางกายภาพบำบัด เราจะพบกับแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูเป็นอันดับแรก ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับโครงสร้างและการทำงานของร่างกาย รวมถึงทางด้านระบบประสาท ระบบหัวใจและหลอดเลือด ที่สามารถส่งผลถึงระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ โดยแพทย์จะทำหน้าที่ตรวจประเมิน วินิจฉัย และรักษา ไปจนถึงการตรวจรักษาสุขภาพโดยรวมและโรคประจำตัวอื่นๆ ของคนไข้
แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูทำงานร่วมกับนักกายภาพบำบัด ซึ่งเป็นผู้ที่มีทักษะเกี่ยวกับการป้องกันรักษาและจัดการการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติที่เกิดขึ้น สามารถตรวจประเมินการเคลื่อนไหว อาการบาดเจ็บ ช่วงมุมการเคลื่อนไหวของข้อต่อ ความแข็งแรงและความยาวของกล้ามเนื้อ รวมถึงปัจจัยด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับอาการบาดเจ็บหรืออาการจากโรคที่เกิดขึ้น เช่น ท่าทางในการนั่ง การทำงาน (ออฟฟิศซินโดรม) หรือการออกกำลังกาย นอกจากนี้ยังมีความเชี่ยวชาญในการใช้เครื่องมือทางกายภาพบำบัด เช่น เครื่องอัลตร้าซาวด์ เครื่องช็อคเวฟ เป็นต้น
โดยหลังจากแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูส่งต่อผู้ป่วยมาทำกายภาพบำบัด นักกายภาพบำบัดจะเป็นผู้ตรวจประเมิน และทำการรักษาผู้ป่วยจนสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ หรือสามารถทำตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เช่น การกลับไปเล่นกีฬา รวมถึงให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันการกลับไปเป็นซ้ำ
ทั้งนี้ ในคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ไม่มีแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูกำกับ การรักษาของนักกายภาพบำบัดจะรวมถึงการวินิจฉัยประเมินอาการ และพูดคุยกับผู้ป่วยเพื่อซักประวัติอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นโรคประจำตัว อาการ และพฤติกรรมหรือปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ที่อาจส่งผลให้มีอาการดังกล่าว
ในด้านขั้นตอนการรักษา นักกายภาพบำบัดจะใช้เทคนิคที่หลากหลายตามความเหมาะสม เช่น การบำบัดด้วยมือ ซึ่งรวมถึงเทคนิคการดัด ดึง และขยับข้อต่อ การบำบัดด้วยการออกกำลังกาย การใช้เครื่องช็อคเวฟ คลื่นอัลตราซาวด์ ความร้อน และความเย็น เป็นต้น
การนวดนั้นเหมาะสำหรับอาการปวดนิดตึงหน่อยหรือในวันที่เครียดและต้องการผ่อนคลาย แต่หากมีอาการที่เรื้อรัง เป็นๆ หายๆ ที่รบกวนใจหรือขัดขวางการทำงานและการใช้ชีวิตอย่างราบรื่น การกายภาพบำบัดคือคำตอบของคุณ
สนใจคลิกดูรายละเอียดบริการกายภาพบำบัดที่พรีโมแคร์ เมดิคอล คลินิก ที่นี่ หรือสอบถามเพิ่มเติมได้เลยที่ LINE @primoCare
ให้พรีโมเเคร์ เมดิคอล ดูเเลทุกองค์ประกอบสุขภาพของคุณ ทั้งด้านรักษา ป้องกัน เเละส่งเสริมสุขภาพ เพื่อให้คุณมีสุขภาพเเข็งเเรงเเบบยั่งยืน
1 ซอยกรุงเทพกรีฑา 4 (บี.กริม) แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240 ประเทศไทย
โทร: +66 2038 5595
LINE ID: @primocare
อีเมล: [email protected]
©2022 PrimoCare Medical Limited. All rights reserved.