นอกจากท่านอนที่ถูกต้องจะช่วยส่งเสริมคุณภาพการนอนหลับ ทำให้ตื่นมารับเช้าวันใหม่ได้อย่างสดชื่นกระปรี้กระเปร่า เชื่อหรือไม่ว่าการปรับเปลี่ยนท่านอนเพียงเล็กน้อยยังอาจช่วยบรรเทาปัญหาสุขภาพบางอย่างได้อีกด้วย
สำหรับใครที่กำลังมีอาการปวดหลัง ปวดคอ ออฟฟิศซินโดรม กรดไหลย้อน คัดจมูก ภูมิแพ้ หรือแม้กระทั่งนอนกรน วันนี้พรีโมแคร์จะพาไปดูกันว่า ต้องนอนท่าไหนถึงจะช่วยรับมืออาการเหล่านี้ให้อยู่หมัด
ท่านอนที่เหมาะสมกับผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ที่สุดคือท่านอนตะแคงงอเข่า เนื่องจากจะช่วยลดแรงกดจากขนาดท้องที่โตขึ้น และทำให้หัวใจสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ดี และถ้าจะให้ดีควรนอนตะแคงข้างซ้ายเพื่อป้องกันแรงกดทับต่อตับ ช่วยให้เลือดดีไปเลี้ยงตัวอ่อน มดลูก ไต และหัวใจได้มากขึ้น
หากนอนตะแคงข้างซ้ายแล้วรู้สึกไม่สบาย สามารถสลับนอนตะแคงข้างขวาเพื่อคลายการลงน้ำหนักที่สะโพกด้านซ้าย และอาจใช้หมอนรองบริเวณใต้ท้อง ระหว่างขา และหนุนบริเวณกระเบนเหน็บให้นอนสบายยิ่งขึ้น
ท่านอนตะแคงเป็นท่าที่ดีที่สุดสำหรับป้องกันหรือลดอาการปวดหลัง รองลงมาคือท่านอนหงาย โดยมีงานวิจัยที่ให้ผู้ใหญ่ที่มีอาการปวดหลัง ฝึกนอนในท่าตะแคงหรือนอนหงาย ผลลัพธ์พบว่าต่างมีอาการดีขึ้นมากภายใน 4 สัปดาห์
สำหรับคนที่มีอาการปวดหลังส่วนล่าง แนะนำให้นอนตะแคงโดยใช้หมอนหรือผ้าห่มที่มีความหนาพอประมาณหนุนระหว่างเข่าทั้ง 2 ข้าง ทั้งนี้เพื่อป้องกันอาการปวดคอและปวดบ่าไหล่จากท่านอนตะแคง ควรนอนหนุนหมอนที่มีความสูงพอดีกับช่องว่างระหว่างไหล่และคอ เพื่อให้กระดูกคอวางตัวในแนวเดียวกับกระดูกสันหลัง
หากมีอาการปวดคอควรนอนหงาย เนื่องจากเป็นท่าที่ช่วยป้องกันท่าทางที่ผิดตำแหน่งของคอที่อาจเกิดจากการนอนตะแคงหรือนอนคว่ำ โดยแนะนำให้ใช้หมอนที่ช่วยรองรับคอและมีความนุ่ม นอนแล้วศีรษะอยู่ต่ำลงไป อาจใช้หมอนยางพาราหรือหมอนเมมโมรีโฟมที่มีลักษณะโค้งเป็นรูปตัว S ซึ่งจะช่วยรองรับให้ศีรษะอยู่ในท่าทางที่ถูกต้อง หรือจะหนุนหมอนแบนๆ แล้วม้วนผ้าเช็ดตัวรองบริเวณคอขณะนอนหลับก็ได้เช่นกัน
นอกจากนี้ระหว่างที่นอนควรให้แขนทั้งสองข้างอยู่ในท่าเดียวกัน เช่น วางไว้ข้างลำตัวทั้งสองข้าง เพื่อป้องกันการวางตัวของกระดูกสันหลังที่ไม่เป็นแนวเดียวกัน ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของอาการปวดไหล่หรือปวดคอได้เช่นกัน
สำหรับผู้ป่วยโรคภูมิแพ้หรือผู้ที่มีอาการคัดจมูก ควรใช้หมอนหนุนบริเวณหลังส่วนบน เพื่อยกระดับศีรษะให้สูงขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ทางเดินหายใจเปิดออกและหายใจคล่อง ควรหลีกเลี่ยงการนอนราบระดับเดียวกับที่นอนเพราะจะทำให้ยิ่งคัดจมูกมากกว่าเดิม
ควรนอนตะแคงซ้ายโดยใช้หมอนหนุนศีรษะและลำตัวส่วนบนให้ยกขึ้นสูงกว่าช่วงเท้า อาจใช้หมอนเมมโมรี่โฟมทรงเอียงหรือเตียงปรับระดับที่ช่วยยกลำตัวช่วงบนขึ้นป้องกันกรดไหลย้อนจากกระเพาะมาสู่หลอดอาหาร และไม่ควรนอนตะแคงขวาเพราะจะยิ่งทำให้อาการแย่ลง
ภาวะหยุดหายใจขณะหลับเป็นภาวะที่ส่งผลให้ทางเดินหายใจหดตัวลงในระหว่างหลับ มักเกิดร่วมกับปัญหาการนอนกรน การนอนตะแคงหรือนอนคว่ำจะช่วยเปิดทางเดินหายใจให้กว้างขึ้น ลดอาการกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับที่ไม่รุนแรง ควรหลีกเลี่ยงท่านอนหงายเพราะอาจยิ่งทำให้อาการแย่ลงได้
ผู้ติดเชื้อโควิด-19 บางรายอาจมีอาการหายใจลำบากเนื่องจากเชื้อไวรัสส่งผลกระทบต่อการทำงานของปอด ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ ท่านอนคว่ำโดยตะแคงศีรษะไปด้านข้างจะช่วยให้หายใจสะดวกขึ้น เนื่องจากช่วยลดแรงกดของหัวใจและท้องที่กระทำต่อปอด และในกรณีฉุกเฉินสามารถยื้อเวลาเพื่อรอการช่วยเหลือด้วยเครื่องช่วยหายใจ
ขณะนอนคว่ำ ผู้ป่วยควรอยู่ในท่าที่รู้สึกสบายที่สุด เพราะจะต้องนอนในท่านี้เป็นเวลานาน โดยสามารถขยับตัวเปลี่ยนท่าคลายเมื่อยทุก 1-2 ชั่วโมง ตัวอย่างท่านอนคว่ำที่สามารถทำตามได้ มีดังนี้
หากปรับได้ ปัญหาสุขภาพก็ไม่ใช่อุปสรรคการนอนหลับพักผ่อนอีกต่อไป แต่ถ้ารู้สึกไม่คุ้นเคยกับท่านอนเหล่านี้ ในช่วงแรกแนะนำให้ใช้หมอนวางรอบตัวเพื่อจัดตำแหน่งท่านอนที่ถูกต้อง เมื่อนานไปก็จะทำได้อย่างเคยชิน และอาจกลายมาเป็นท่านอนที่ดีและตอบโจทย์สุขภาพของเราที่สุดก็เป็นได้
พรีโมแคร์ ดูแลทุกเรื่องสุขภาพโดยมีคนไข้เป็นศูนย์รวมความใส่ใจ คลิกดูบริการของเราที่นี่ หรือสอบถามเพิ่มเติม/นัดหมายรับบริการล่วงหน้าที่ @primocare
ให้พรีโมเเคร์ เมดิคอล ดูเเลทุกองค์ประกอบสุขภาพของคุณ ทั้งด้านรักษา ป้องกัน เเละส่งเสริมสุขภาพ เพื่อให้คุณมีสุขภาพเเข็งเเรงเเบบยั่งยืน
1 ซอยกรุงเทพกรีฑา 4 (บี.กริม) แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240 ประเทศไทย
โทร: +66 2038 5595
LINE ID: @primocare
อีเมล: [email protected]
©2022 PrimoCare Medical Limited. All rights reserved.