‘งีบกี่นาทีดีที่สุด?’ และถ้าจะงีบ ‘ควรงีบหลับตอนไหนดี?’ คำถามยอดฮิตที่หลายคนมักสงสัย นั่นก็เพราะหลายครั้งเราอาจมีประสบการณ์การนอนกลางวันแตกต่างกันไป บางครั้งตื่นมารู้สึกสดชื่น แต่บางครั้งกลับปวดหัวหรืองัวเงีย ซึ่งระยะเวลาและช่วงเวลาในการงีบนั้นก็สามารถส่งผลต่อความสดชื่นหลังตื่นจากการงีบหลับได้จริงๆ
คุณหมอพรีโมแคร์…ชวนมาหาคำตอบน่ารู้เกี่ยวกับการนอนกลางวันให้ได้ประโยชน์ เพราะมีปัจจัยไม่น้อยที่เป็นตัวกำหนดว่าหลังงีบหลับจะรู้สึกอย่างไร เพื่อการงีบหลับที่เต็มอิ่มสดชื่น และไม่ต้องกลัวว่าจะนอนไม่หลับในตอนกลางคืน
การงีบหลับ (Power Nap) ช่วยลดความง่วงในระหว่างวันซึ่งจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงเวลานอนตามวงจรการนอนหลับในตอนกลางคืน การนอนกลางวันจึงเปรียบเหมือนการชาร์จพลังเพื่อให้รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า และมีพลังงานในการทำสิ่งต่างๆ มากขึ้น
นอกจากนี้ มีการศึกษาถึงประโยชน์ของการงีบหลับที่เชื่อว่าอาจช่วยได้จริง ได้แก่
การงีบหลับอาจส่งผลตรงกันข้ามในบางคน โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหานอนไม่หลับหรือนอนหลับยากในตอนกลางคืนอยู่แล้ว ซึ่งแนะนำให้หลีกเลี่ยงการงีบระหว่างวัน เพราะจะยิ่งทำให้หลับยาก ตื่นมาไม่สดชื่นกระปรี้กระเปร่า แถมอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานยิ่งกว่าการไม่นอนกลางวัน
การนอนกลางวันที่นานเกินไปยังอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดที่มากขึ้นด้วย โดยมีงานวิจัยชี้ว่ากลุ่มที่งีบหลับนานกว่า 1 ชั่วโมงอาจมีความเสี่ยงสูงกว่ากลุ่มที่ไม่นอนกลางวัน นอกจากนี้ ในวัยผู้ใหญ่ตอนปลาย การงีบหลับนานยังอาจสัมพันธ์กับความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และภาวะซึมเศร้าที่เพิ่มมากขึ้น
ระยะเวลาการงีบหลับที่จะช่วยเพิ่มความสดชื่นและความตื่นตัวได้ดีที่สุด ไม่ควรเกิน 10-20 นาที ฉะนั้นทุกครั้งที่งีบหลับเราจึงควรจำกัดเวลาด้วยการตั้งนาฬิกาปลุก เพราะหากงีบหลับนานกว่านี้อาจทำให้ยิ่งรู้สึกง่วงหรือเพลียยิ่งกว่าเดิม ส่วนผู้ที่มีภาวะอดนอนหรือนอนน้อยนั้น แนะนำให้งีบหลับ 1.5-2 ชั่วโมง เพื่อคลายความอ่อนเพลียจากการนอนที่ไม่เพียงพอ
ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การงีบหลับของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับตารางเวลาการนอนและอายุ ซึ่งสำหรับคนส่วนใหญ่จะเป็นในช่วงบ่าย 1-3 โมง หลังอาหารมื้อกลางวัน แต่ไม่ควรงีบหลังบ่าย 3 โมงเป็นต้นไป ไม่เช่นนั้นอาจส่งผลให้นอนไม่หลับในตอนกลางคืนได้
เราอาจสังเกตว่าการนอนกลางวันในบางครั้งตามมาด้วยความรู้สึกมึนหรือปวดหัว อาการเหล่านี้อาจมีสาเหตุมาจากปัญหาในการนอนหลับ โดยข้อมูลจากสถาบันการนอนแห่งชาติในสหรัฐอเมริกา ชี้ว่าผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการนอนอยู่แล้วจะประสบกับอาการปวดหัวหลังงีบหลับมากกว่าคนปกติถึง 2-8 เท่า
นอกจากนี้ ปัญหาสุขภาพบางอย่างต่อไปนี้ก็อาจเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้มีอาการปวดหัวหลังนอนกลางวันหรือหลังตื่นนอนในตอนเช้าได้เช่นกัน
ไม่มีข้อพิสูจน์ชี้ชัดว่าการงีบหลับส่งผลต่อการเพิ่มหรือลดน้ำหนักอย่างไร แต่ที่ค่อนข้างชัดเจนคือการนอนน้อยหรือมีคุณภาพการนอนย่ำแย่ นอนหลับๆ ตื่นๆ นอนไม่เต็มอิ่ม เป็นปัจจัยเสี่ยงที่นำไปสู่การเกิดโรคอ้วนได้
การงีบหลับช่วยคืนความสดชื่นให้ใครหลายคน แต่สำหรับผู้ที่มีปัญหาในการนอนหลับตอนกลางคืน การนอนกลางวันก็อาจไม่เหมาะกับคุณเท่าไหร่นัก โดยหากพบว่าตัวเองมีอาการนอนไม่หลับจากความเครียดหรือวิตกกังวล คุณควรปรึกษาแพทย์และนักจิตวิทยาเพื่อระบุสาเหตุและรับแนวทางการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสมเป็นดีที่สุด
ทุกเรื่องสุขภาพ พรีโมแคร์ดูแลด้วยใจ คลิกดูบริการที่นี่ หรือปรึกษาทีมแพทย์ของเราได้เลยที่ LINE @primoCare
ให้พรีโมเเคร์ เมดิคอล ดูเเลทุกองค์ประกอบสุขภาพของคุณ ทั้งด้านรักษา ป้องกัน เเละส่งเสริมสุขภาพ เพื่อให้คุณมีสุขภาพเเข็งเเรงเเบบยั่งยืน
1 ซอยกรุงเทพกรีฑา 4 (บี.กริม) แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240 ประเทศไทย
โทร: +66 2038 5595
LINE ID: @primocare
อีเมล: [email protected]
©2022 PrimoCare Medical Limited. All rights reserved.