/    บทความ    /    วัคซีนไข้หวัดใหญ่

วัคซีนไข้หวัดใหญ่

วัคซีนไข้หวัดใหญ่

 ไข้หวัดใหญ่เป็นโรคที่มีอาการคล้ายโรคหวัดทั่วไป แต่มีโอกาสเกิดอาการรุนแรงและภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายได้มากกว่า ในประเทศไทย สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่เมื่อปี 2564 ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 27ตุลาคม 2564 มีรายงานผู้ป่วยทั่วประเทศถึง 9,314 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 14.05 ต่อประชากรหนึ่งแสนคน และในกลุ่มจะพบผู้ป่วยที่มีอาการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันมากถึงร้อยละ 48 ด้วยเหตุนี้แพทย์จึงแนะนำให้ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี เพื่อป้องกันตัวเองและคนรอบข้างจากการติดเชื้อและช่วยลดความรุนแรงของโรค

 

โรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza)

โรคไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคติดต่อชนิดหนึ่งที่เกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Influenza Virus) มีผลต่อระบบทางเดินหายใจอย่างจมูก คอ หลอดลม โดยโรคไข้หวัดใหญ่จะแสดงอาการที่รุนแรงและยาวนานกว่าไข้หวัดธรรมดา และยังมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนได้สูงกว่า หากมีอาการหนักอาจทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ อาการไข้หวัดใหญ่เบื้องต้น ผู้ป่วยจะมีอาการคล้ายกับไข้หวัดธรรมดา ซึ่งโดยปกติไข้หวัดใหญ่จะมีอาการอยู่ประมาณ 5-7 วัน แล้วก็หายเอง อาการไข้หวัดใหญ่จะมีลักษณะเด่นที่สำคัญ ดังนี้

  • มีไข้สูง
  • ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก
  • ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หรือรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว
  • ปวดศีรษะ
  • อ่อนเพลีย
  • คลื่นไส้ ท้องเสีย
วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ (Influenza Vaccine)
วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่นั้นสามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป ทั้งนี้วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ในประเทศไทยเป็นไวรัสชนิดเชื้อตาย มีความปลอดภัยสูง และมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เดียวหรือใกล้เคียงกับวัคซีนได้ 70-90% 
 
วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ควรฉีดเป็นประจำทุกปี เนื่องจากแต่ละสายพันธุ์จะแตกต่างกันในแต่ละปี โดยวัคซีนไข้หวัดใหญ่สามารถฉีดได้ตลอดปี แต่ช่วงเวลาที่เหมาะสม คือ ก่อนฤดูฝน และก่อนฤดูหนาวเนื่องจากเป็นช่วงที่เริ่มมีการระบาด
 
ประเภทของวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่
วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่  
 
  1. วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ชนิด 3 สายพันธุ์ ประกอบด้วย เชื้อไวรัสสายพันธุ์ A จำนวน 2 สายพันธุ์ และเชื้อไวรัสสายพันธุ์ B จำนวน 1 สายพันธุ์
  2. วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ชนิด 4 สายพันธุ์ ประกอบด้วย เชื้อไวรัสสายพันธุ์ A จำนวน 2 สายพันธุ์ และเชื้อไวรัสสายพันธุ์ B จำนวน 2 สายพันธุ์
ใครที่ควรฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่
 

ทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป ควรรับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะกลุ่มที่เสี่ยงเกิดอาการรุนแรงหรือมีภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ ดังต่อไปนี้

  • หญิงตั้งครรภ์
  • เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี
  • ผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป
  • ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 
  • ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
  • ผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมีย และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง
  • ผู้ป่วยโรคอ้วน
  • บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ทำงานใกล้ชิดผู้ป่วย
วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ และ วัคซีนป้องกันโควิด
 
โรคไข้หวัดใหญ่ และ โรคโควิด-19 มีโอกาสที่จะติดเชื้อร่วมกันได้ เมื่อเกิดการติดเชื้อร่วมกัน จะส่งผลให้อาการป่วยรุนแรงขึ้น และอาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้ ดังนั้นการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่จะช่วยลดการนอนโรงพยาบาล หรือเข้ารักษาในโรงพยาบาลสั้นกว่าคนที่ไม่เคยฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่มาก่อนการติดเชื้อโควิด-19 ทั้งนี้ผู้ที่มีความประสงค์จะฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ และ วัคซีนป้องกันโควิดพร้อมกันนั้น สามารถทำได้ โดยฉีดด้วยแขนคนละข้าง โดยผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรเข้ารับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายและยังช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ได้อีกด้วย
 
หากท่านต้องการที่จะนัดหมายเพื่อฉีดวัคซีน หรือปรึกษาแพทย์สามารถเข้ามารับคำแนะนำได้ที่ พรีโมแคร์ เมดิคอล คลินิก ที่พร้อมดูแลรักษาสุขภาพร่างกายของท่านอย่างครบถ้วน สามารถสอบถามหรือนัดหมายล่วงหน้า ที่นี่